
3 วัน 2 คืน เที่ยวหลวงพระบาง เมืองมรดกโลกของประเทศลาว เมืองที่มีวิถีชีวิตริมแม่น้ำโขง เมืองที่มีวัดวาอารามเก่าแก่อันโด่งดัง มีตึกรามบ้านช่องสไตล์โคโลเนียลอันเป็นเอกลักษณ์ และเมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่า Slow life เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในสมัยที่เราสามารถใช้ชีวิตช้า ๆ เดินชมบ้านเมืองที่แสนจะสวยงาม กินของอร่อย ๆ พบปะผู้คนที่เค้าว่ากันว่าน่ารักจริง ๆ
คำแนะนำก่อนเที่ยว
บินตรงกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชั่วโมง
ให้แลกเงินกีบมาให้เรียบร้อย หรือแลกได้ที่สนามบินหลวงพระบางตอนรับกระเป๋าเสร็จได้ค่ะ จริง ๆ สามารถใช้เงินไทยได้นะ แต่เค้าก็จะปัดเศษเงินไทยขึ้นหน่อยค่ะ
ออมนัทเดินทางเดือนกุมภาพันธ์ อากาศค่อนข้างหนาวในช่วงเช้าและกลางคืน พกเสื้อคลุมติดมาด้วยค่ะ
หลวงพระบางเป็นเมืองเล็ก ๆ เที่ยวได้สบายมาก บางที่เดินได้เลย หรือจะเช่าจักรยาน เรียกตุ๊กตุ๊กก็ได้ค่ะ
ใครอยากไปที่น้ำตกกวางสี แนะนำให้ไปช่วงเช้า แต่ไกลเมืองออกไปประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ
กิจกรรมแนะนำล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกสวยมากค่ะ
ในเมืองหลวงพระบางมีคาเฟ่ บาร์ น่านั่งเพียบค่ะ เลือกได้เลย
อาหารที่ควรทาน ส้มตำหลวงพระบาง ปิ้งไก่ ข้าวเปียก เส้นเปียก เป็นต้น

ทริปนี้ออมนัทพักที่ Avani+ Luang Prabang 2 คืนเลยค่ะ อวานี พลัส หลวงพระบาง เป็นโรงแรมบูทีคที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สิ่งที่ยกให้ก่อนเลยคือทำเลค่ะ เพราะว่าไม่ไกลจากแม่น้ำโขง เดินไปประมาณ 400 เมตร เดินไปเที่ยวชมพระราชวังเดิม วัดเก่า ที่เที่ยวต่าง ๆ แล้วก็เดินไปเที่ยวตลาดกลางคืนได้แบบใกล้มากแค่หน้าโรงแรมเลยค่ะ โรงแรมมีจักรยานให้บริการ มีบักกี้เรียกไปส่งใกล้ ๆ ได้ ชอบตรงนี้เลย

สถาปัตยกรรม NEO CLASSIC แบบร่วมสมัย ที่มีความกลมกลืนไปกับย่านประวัติศาสตร์โดยรอบของเมืองหลวงพระบาง ห้องพักอันแสนสบาย เรียบง่าย มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่อยู่กลางโรงแรม เป็นมุมโปรดของออมนัทระหว่างที่เรามาพักที่นี่เลยค่ะ เราชอบมานั่งที่เดย์เบด ลงเล่นน้ำสระช่วงบ่าย ๆ อากาศกำลังสบาย ๆ ยาวไปถึงแสงของพระอาทิตย์ตก หรือจะกลับไปนั่งที่ริมระเบียงห้อง ออมนัทพัก AVANI Deluxe Room ที่มีระเบียงเปิดกว้างหันหน้าไปชมวิวภูเขาได้เลย

ห้องขนาด 35 ตร.ม. ที่มีการแบ่งสัดส่วนให้เป็นระเบียบ เตียงนอนขนาด King Size ตั้งอยู่กลางห้อง ม่านสีขาวกั้นแยกส่วนห้องน้ำและห้องอาบน้ำแบบ Rain Shower แยกส่วนซ้าย-ขวา ปลายเตียงเป็นทีวีจอแบนแขวนติดผนัง ฝั่งขวาคือโต๊ะทำงาน มุมมินิบาร์ ฝั่งซ้ายเป็นตู้เสื้อผ้า มุมเก้าอี้นั่งพักผ่อนพร้อมขนมและผลไม้ต้อนรับในห้อง ทางไปจอง Avani+ Luang Prabang

อย่างที่บอกไปว่าสระว่ายน้ำตั้งอยู่ตรงกลางของโรงแรม ส่วนของอาคารตรงปลายสระคือห้องอาหารและบาร์ ที่อยู่ติดกับถนนหลักค่ะ
เย็นวันแรกเรามีโปรแกรม Must do ของหลวงพระบางเลยคือการล่องเรือชมวิวแม่น้ำโขซึ่งเป็นเรือที่ออมนัทจองตรงกับทางโรงแรมเลย ของ Mekong Kingdoms

ช่วงประมาณ 4 โมงเย็น โรงแรมก็จะขับบักกี้ไปส่งท่าเทียบเรือริมแม่น้ำโขง เรือก็จะล่องออกไปตามลำน้ำโขง โดยจะใช้เวลาไปกลับประมาณ 2 ชั่วโมง ค่ะ มี Snack เป็นอาหารพื้นเมือง น้ำดื่ม น้ำผลไม้ และไวน์ บริการแบบ Free Flow ค่ะ
บรรยากาศช่วงพระอาทิตย์ตกสวยมาก

กลับมาทานมื้อเย็นกันที่ห้องอาหารหลักที่เดียวของโรงแรมค่ะ ชั้นล่างเป็นห้องอาหาร ส่วนชั้นสองเป็นบาร์ เสิร์ฟเป็นอาหารสไตล์ฝรั่งเศสผสมผสานและแบบลาวแท้ ๆ มีอาหารไทย หลากหลายเมนูเลยค่ะ

มื้อนี้ออมนัทสั่งหลายอย่างมาก ทั้งผัดไทยกุ้ง ส้มตำหลวงพระบาง ปิ้งไก่ ลาบทอด ต้มแซ่บ เสต็กเนื้อ ที่บอกเลยนะว่าอร่อยทุกเมนูแบบไม่อวย โดยเฉาะตำหลงพระบางเข้ขมข้นหอมปลาร้าและนัวสุด ๆ

ตื่นเช้ามีนัดตอน 6 โมงเช้าค่ะ อีกหนึ่งกิจกรรมที่มาถึงหลวงพระบางแล้วจะพลาดไม่ได้ นั่นคือการตักบาตรข้าวเหนียวนั่นเอง ซึ่งทางโรงแรมได้จัดเตรียมที่นั่ง พร้อมข้าวเหนียวกระติบ และที่กรวดน้ำ และน้ำชาให้เราดื่มอุ่น ๆ ยามเช้าด้วยค่ะ แล้วก็รอใส่บาตรพระได้เลย

หลังจากใส่บาตรก็เริ่มหิวกันแล้วค่ะ เช้านี้จะพาไปทานร้านกาแฟประชานิยม ร้านชื่อดังที่ใคร ๆ ก็ต้องมาอยู่ริมถนนเลียบแม่น้ำโขง ออมนัทสั่งเป็นเส้นเปียก ข้าวเปียก ไข่ลวก ทานคู่กับปาท่องโก๋ ชาเย็น โอวัลตินเย็น ซุปหอมอร่อยซดแล้วสดชื่นมาก ห่างจากโรงแรมแค่ประมาณ 100 เมตรเท่านั้นเองค่ะ รอบ ๆ นี้ก็มีตลาดเช้า มานั่งคาเฟ่ริมแม่น้ำโขงก็ได้เลยค่ะ ใกล้มากจริง ๆ
กลับถึงห้องก็นอนพักยาวถึงบ่าย ๆ เลยค่ะ ออมนัทจะไปกินมื้อเที่ยงกันที่ร้านส้มตำป้าติ๋ม เป็นร้านส้มตำชื่อดังที่ใคร ๆ มาก็ต้องไปกินเดี๋ยวหาว่ามาไม่ถึง ซึ่งมาช่วงบ่ายดีมากค่ะ คนน้อยไม่ต้องรอคิวเลย

สั่งเป็นตำหลวงพระบาง ปิ้งไก่หนังกรอบดี ไข่เจียว ไส้อั่วค่ะ อร่อยน้า แต่ถ้าความชอบส่วนตัว ให้ตำหลวงพระบางที่โรงแรมมากกว่า

เย็นวันสุดท้ายก็เดินเล่นกันที่ตลาดมืดเลยค่ะ เดินดูของขาย ชิมของกินตามร้านต่าง ๆ
แล้วไปจบที่บาร์สีแดงสดร้านนี้ เป็นบาร์คอกเทลอยู่ซ่อนตัวอยู่ชั้นสอง ร้านตกแต่งสวยงาม เป็นสีแดงสดไปเลย ถ่ายรูปสวยและเครื่องดื่มเรียกว่าเข้มถึงไม่มีหวง คอกเทลหลากหลายเลยค่ะ

ก่อนที่จะเช็คเอาท์ออมนัทไปทานมื้อเที่ยงที่ห้องอาหารส่วนกลางของโรงแรมเหมือนเดิมค่ะ ตอนนี้เค้ามี Crouse menu แบบ Wine Pairing ซึ่งจะเสิร์ฟ 3 คอร์ส Starter / Main / Dessert จับคู่กับไวน์แต่ละเมนู เข้ากัน อาหารรสชาติเยี่ยมเลยค่ะ

เป็น 3 วัน 2 คืนที่มีความสุขผ่านไปไวมากแต่ครั้งนี้เป็นความสุขที่เราได้ลองทำอะไรช้า ๆ ไม่ค่อยได้จับมือถือ เดินเล่นชมเมืองเก่าสมกับเมืองมรดกโลกและชีวิตสโลไลฟ์จริง ๆ เป็นแบบนี้นี่เอง จริง ๆ จะบอกว่าทริปนี้ยังไม่จบน้า เรายังไปทริปล่องเรือแม่น้ำโขงกันอีก 3 คืนค่ะ เป็นเรือหรูที่ใหญ่ที่สุดในริมน้ำโขงด้วยนะ บอกเลยว่าสุดจริง แถมเป็นอะไรที่เกินคาดไปหลายอย่างมากค่ะ ทั้งห้องบนเรือ กิจกรรมต่าง ๆ เสิร์ฟอาหารแบบ Fine Dining ทุกมื้อ!!!! จะเป็นอย่าวไรติดตามต่อรีวิวหน้าน้า
Kommentit