นี่คือทริปขับรถเที่ยวเส้นทางที่สวยระดับโลก..สักครั้งในชีวิตต้องมา!
ทุกคนนนนนน เชื่อมั้ยว่าทริปนี้ทำเอาออมนัทพูดคำว่า สวย สวย สวย ตลอด 5 วันแบบไม่รู้ตัวเลย นี่คือเขตเทือกเขามรดกโลก “DOLOMITES” ประเทศอิตาลีนั่นเอง ตามชื่อ Dolomites แปลว่าหินปูนตามสภาพภูมิศาสตร์ที่ในแถบนี้เต็มไปด้วยภูเขาหินปูนมีรูปร่างแปลกตา ไม่ว่าจะเป็นยอดเขาแหลมสูงอลังการ หรือทะเลสาบสีฟ้าอมเขียวใสเหมือนกระจก แบบไปแล้วต้องตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นเลยค่ะ
นี่คือ แพลน Road Trip เที่ยว Dolomites ในช่วงฤดูร้อน เมื่อวันที่ 16-20 มิถุนายนค่ะ ขับรถเที่ยว 5 วัน ทริปนี้ฮีลใจสุด ๆ เป็นช่วงฤดูที่ดอกไม้ผลิบาน ภาพทุ่งหญ้ากว้างสุดลูกหูลูกตา ฉากหลังเป็นภูเขาทรงแหลมสูงอลังการ อากาศเย็นสบาย เที่ยวง่ายมาก เน้นชิล นั่งเล่นชมวิว ผ่านเส้นทางถนนที่บอกเลยว่าสวยจนหยุดถ่ายรูปไม่ได้เลยค่ะ
1 - Dolomites อยู่ทางอิตาลีตอนเหนือ เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ เหมาะกับการเที่ยวแบบ Road trip ขับรถเที่ยวเอง ชิวๆ ชมวิวข้างทาง แวะถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าใครขับรถไปไม่เค้าก็มีรถประจำทางค่ะ แต่อาจจะไปไม่ถึงทุกที่เที่ยว
2 - ถ้าหาอ่านรีวิวมาเองก็อาจจะงงหน่อยเพราะว่าพื้นที่ Dolomites ใหญ่มาก เอาให้ง่ายในการเที่ยวคือ ตลอด 5 วัน 4 คืน เราจะแบ่งเที่ยว 2 ฝั่ง คือโดโลไมท์ฝั่งตะวันตก 2 คืน และฝั่งตะวันออกอีก 2 คืน
3 - ควรแพลนไว้สัก 4 คืนขึ้นไปจะดีมากค่ะ แพลนหลวม ๆ ไว้บางทีอยากอยู่ตรงนี้นาน ๆ จนไม่ได้ไปอีกที่แบบนี้ก็มี ขนาดไป 5 วัน ออมนัทไปยังเก็บไม่ครบทุกจุดไฮไลท์เลย เพลนตามใจอยากล้วน ๆ ด้วยความว่า Dolomites นั่นยิ่งใหญ่มาก มีภูเขาต่าง ๆ ให้เราได้เดิน Trekking เส้น Trail เต็มไปหมด ซึ่งแต่ละที่ก็ควรอยู่สักหนึ่งวันเต็มแล้วเก็บเล็ก ๆ น้อย ตามทางได้
4 - ออมนัทเดินทางกันช่วงกลางเดือนมิถุนายนค่ะ ซึ่งแนะนำเลยนะ อากาศยังเย็นสบาย ไม่ร้อนมาก พวกดอกไม้สีสันต่าง ๆ เริ่มบานเต็มทุ่งหญ้า หันไปทางไหนก็สดชื่นสุด ๆ และพระอาทิตย์ตกช้ามาก 4 ทุ่มกว่า ๆ ถึงจะมืด ทำให้มีเวลาเที่ยวเเยอะ ไม่ต้องรีบออกมากมาย
5 - เส้นทางเริ่มจากที่ สนามบิน Bergamo, Milan แล้วขับไป Dolomites เลยค่ะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงได้ บริษัทเช่ารถมีหลายเจ้า ถ้าเจ้าดัง ๆ มีเคาท์เตอร์ในสนามบินก็อาจจะราคาสูงหน่อยแต่สะดวก ส่วนของออมนัท เช่าของเอเจนท์ (แปะลิงค์รถเช่าไว้ให้ในคอมเมนท์นะ) และไปซื้อประกันต่อหน้าเคาท์เตอร์ สามารถเลือกได้ว่าจะเอาแบบไหนค่ะ แต่เท่าที่ขับมาไม่มีอะไรน่ากลัวเลยค่ะ ถนนก็ดีนะ มีแคบบางช่วงตามเมือง แนะนำก็เลือกรถเล็ก-กลางก็ได้ค่ะ ลิงค์จองรถเช่าราคาถูกตามออมนั้น กดที่นี่ ได้เลยค่ะ
6 - ที่พัก : อย่างที่บอกว่าแพลนแบ่งการเที่ยวเป็นสองฝั่ง ให้ดูเมืองหลัก ๆ ไว้คือ ตะวันตก (ฝั่งซ้าย) เมือง Ortesei และตะวันออก (ฝั่งขวา) คือ Cortina D’Ampazzo สามารถหาที่พักให้ย่านเมืองตามนี้ได้ แต่ก็จะมีเมืองเล็ก ๆ ใกล้เคียงที่สามารถเลือกพักได้ในราคาถูกลงได้ค่ะ ซึ่งฝั่งซ้ายด้วยความอยากอยู่ที่ Seiser Alm (เป็นทุ่งหญ้าบนที่ราบสูงสวยที่สุดใน Dolomites) ถึงแสงเย็น เลยเลือกหาที่พักแถวนี้แทนค่ะ ทำให้เราสามารถเดินเล่นในโซนนี้ได้แบบไร้นักท่องเที่ยวในช่วงหลัง 5 โมงเย็นเลย, ส่วนอีก 2 คืนเลือกนอนแถว Bodnerhof (ใกล้กับทะเลสาป Lago di Braies) เพราะแพลนว่าจะไปเก็บแสงช่วงเช้าก่อน 9 โมงค่ะ ขับไปทะเทสาปแค่ 10 นาทีเอง ซึ่งที่พักเลือกแบบบ้านหลังหรืออพาร์ทเมนท์ที่มีครัวทำอาหารกินเองได้ค่ะ อันนี้แล้วแต่เพือน ๆ เอาไปปรับใช้ได้เลยนะ ที่พัก Dolomites มีเยอะมาก ใครอยากอยู่แถวเมืองเพื่อเข้าสะดวกร้านอาหารแบบนี้ก็ได้ค่ะ (แปะลิงค์ที่พักไว้ให้ในคอมเมนท์นะ)
7 - Supermarket จะมีตามเมืองเล็ก ๆ ค่ะ แนะนำแวะซุปเปอร์ใหญ่ก่อนเข้าจะดีกว่าค่ะ แต่ตามหมู่บ้านก็พอมีนะ อาจจะเล็กหนอ่ย ของน้อยค่ะ, ส่วนปั้มน้ำมันก็มีตามเมืองเลย แต่อย่ารอให้ใกล้หมดนะ เจอก็แวะเต็มก่อนจะดีกว่าค่ะ
8 - Highlight ฉบับคนขี้เกียจเดินอย่างเราก็มีตามนี้ค่ะ Seceda, Gardena Pass, Passo di Giau, Lake Braies
9 - Highlight ฉบับเดินนิดหน่อย คือ Alpe di Siusi (Seiser Alm), Santa Maddalena
10 - Highlight เส้น Trail ที่ใช้แรงแต่ก็ไม่ถึงแบบ Super hard คือ Cinema Delle Odle, Cinque Torri, Tre Cime Di Lavaredo, Candini di Misurina (แต่ ๆ เหล่านี้แพลนไว้ไม่ได้เดินเลยค่ะ มัวแต่ชิวเกินจนอดไปเลย ไว้จะไปเก็บใหม่แน่นอน)
ปล.ตามจุดไฮไลท์อาจจะต้องแพลนไปเร็วหน่อยนะคะ เพราะถ้าออกหลังเที่ยงคนจะไปเยอะมากจนไม่มีที่จอดรถ หรือวันที่ออมนัทจะไปเดิน Tre Cime Di Lavaredo รถติดอยู่ทางขึ้นเป็นชั่วโมงเลยยอมแพ้กลับรถออก อดเดินเลยค่ะ
ค่าใช้จ่ายในทริป
1 - รถเช่า 5 วัน 3,900.- จองรถเช่าราคาถูก CLICK!!
2 - Toll ทางด่วน 1,835.-
3 - Supermarket 8,700.-
4 - Gas 5,120.-
5 - Seceda Ticket 2,680.-
6 - Parking 828.-
7 - ค่าเครื่องบิน ไป-กลับ (CHP-BGY) 19,051.- เช็คราคาเครื่องบิน CLICK
8 - ที่พัก Seiser Alm Plaza (2 คืน) 33,540.- ทางไปจอง CLICK!!
(ที่พักจองแบบเป็น 2 ห้องนอนมีครัว)
รวมทั้งหมด 90,885.-
**ราคาไม่ได้รวมค่าตั๋วเครื่องบินจากไทยนะ ทริปนี้ออมนัทเริ่มบินจาก Copenhagen ประเทศ Denmark ค่ะ
ไปดูรีวิวพร้อมดูรูปกันได้เลยค่า ถ่ายรูปมาแบบฉ่ำมาก รัวชัตเตอร์ไม่ยั้ง เพราะหันไปมุมไหนก็สวยจริงจริ๊งงงง
Day 1 : Bergamo > Dolomites
Bergamo Milano Airport รับรถเช่าที่สนามบิน ขับรถเข้าที่พัก 268 km ประมาณ 3.30 ชั่วโมงค่ะ
กดลิงค์จองรถเช่าราคาถูก ตรงนี้ ได้เลยค่ะ
Check in : Seiser Alm Plaza 2 คืน
ทางไปจองที่พัก Seiser Alm Plaza
ที่พัก 2 คืนแรกเลือกพักตรงนี้เพราะว่าออมนัทอยากอยู่บริเวณ Alpe di Siusi กันในช่วงพระอาทิตย์ตก ซึ่งที่นี่สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปจะขับรถขึ้นมาได้แค่ช่วง 09:00-17:00 เท่านั้นค่ะ หลังจากนั้นใครไม่ได้พักบริเวณนี้ต้องออกจากที่นี่ทั้งหมด พอเราได้พักบนนี้ทำให้มีเวลาถ่ายรูปช่วงเย็นที่คนน้อย ๆ หรือแทบจะไม่มีเลย ถ่ายรูปสบายมาก
Day 2 : Santa Maddalena - Alpe di Siusi
Santa Maddalena หมู่บ้านวิวสวรรค์กลางพื้นที่หุบเขาในชุมชน Val di Funes บนระดับความสูง 1,339 เมตร ที่นี่เป็นจุดหมายสำหรับนักท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเลยค่ะ ออมนัทเคยเห็นภาพที่นี่จากไอจีมาเยอะมาก เลยเป็นสิ่งทำให้อยากมาเที่ยว Dolomites ก็เพราะมุมนี้เลย ภาพตรงหน้ามันสวยลงตัวทุกอย่างเหมือนมีใครมาจับวาง ภาพของโบสถ์ Chiesa di Santa Maddalena บนเนินเขา พร้อมฉากหลังของแนวภูเขา Odle รูปทรงเป็นเอกลักษณ์ มุมนี้ถือเป็นภาพจำของเขต Dolomites เลยทีเดียวค่ะ
วิธีการมา : ปักหมุดมาที่ Santa Maddalena จอดตรงลานจอดหน้าหมู่บ้านเท่านั้นนะ การขึ้นมาถ่ายรูปมุมนี้คือห้ามขับรถขึ้นมาเป็นอันขาดเพราะเป็นถนนส่วนบุคคล เว้นเสียแต่ว่าเราจองที่พักอยู่ในหมู่บ้านเท่านั้น ค่าที่จอดรถชั่วโมงละ 2 ยูโร แล้วเดินตามแมพไปที่โบสถ์ได้เลยค่ะ ต่อจากนั้นก็เดินต่อมาที่จุดชมวิวมุมถ่ายภาพที่หันออกมาเห็นโบสถ์อีกฝั่ง
ในหมู่บ้านจะค่อนข้างเงียบสงบค่ะ มุมทุ่งหญ้าตามจุดต่าง ๆ ให้นั่งพัก แต่ที่นี่มีป้ายติดห้ามบินโดรน เลยอดถ่ายมุมสูงมาฝาก รวมทั้งไม่ควรเดินลุกล้ำเข้าไปบนเนินทุ่งหญ้าบางจุดซึ่งเป็นที่ของชาวบ้านด้วยนะ
Alpe di Siusi ทุ่งหญ้าบนที่ราบสูงขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป เป็นที่ในฝันของออมเลยค่ะ ภาพในหัวที่อยากจะมาวิ่งเล่น นอนทิ้งตัวบนทุ่งหญ้าสีเขียว พร้อมดูวิวเทิอกเขาสูงอลังการ ดอกไม้บานสะพรั่งทั่วพื้นที่ นี่แหละวันนี้ได้มาสัมผัสด้วยตัวเองแล้วค่ะ
เป็นจุดหมายฮอตฮิตอีกที่ จะเรียกว่า Alpe di Siusi หรือ Seiser Alm ก็ได้ค่ะ ตั้งอยู่บนระดับความสูงตั้งแต่ 1,680-2,350 เมตรจากระดับน้ำทะเล
ยังจำความรู้สึกเรียกที่เห็นได้เลยว่า สวยจนร้องวิ้ดว้ายกับตัวเอง กดถ่ายรูปแบบไม่หยุดเลย มีความสุขสุด ๆ สวยที่เรียกว่าเป็นมุมองที่ครบองค์ประกอบ ทั้งฉากหลังแนวภูเขาสุดอลังการ ทุ่งหญ้าสีเขียว แทรกไปด้วยดอกไม้สีเหลือ สีขาว สีชม สีม่วงเต็มพื้นที่เนินเขา รวมทั้งบ้านไม้โรงนาที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ
การเดินทาง - ถ้าตามรอยออมนัทก็สามารถเดินเล่นจากที่พักได้เลย ส่วนใครไม่ได้จองที่พักบริเวณนี้ ให้ขึ้นกระเช้าได้จากชุมชน Siusi Seis โดยใช้กระเช้าสาย Seiser Alm Bahn หรือขึ้นจากเมือง Ortisei ด้วยกระเช้าสาย Seilbahnen St.Ulrich - Seiser Alm ได้เลยค่ะ
กดลิงค์จองรถเช่าราคาถูก ตรงนี้ ได้เลยค่ะ
Day 3 : Seceda - Gaderna Pass - Bonderhof
Seceda กับวิวหลักล้านอลังการงานสร้าง สวยเหมือนหลุดไปอีกโลก ภูเขารูปทรงหัวตัดเอกลักษณ์ของ Dolomites บนความสูง 2,519 เมตร ที่เดินทางมาง่ายมาก ไม่ต้องเดิน Trek ให้เหนื่อยเลยค่ะ
ภาพตรงหน้าหลังจากขึ้นกระเช้ามาก็ร้องว้าวแล้วค่ะ ยอดเขาแหลมที่วางตัวเอนเฉียงปลายแหลม ด้านหนึ่งเป็นผาหินที่ปกคลุมด้วยสายหมอกบางๆ อีกด้านคือทุ่งหญ้าสีเขียวและดอกไม้สีสันสดใส
การเดินทาง - ตรงมาที่เมือง Ortisei สามารถจอดรถตรงทางขึ้นกระเช้าได้เลยค่ะ หรือถ้าใครไปแล้วที่จอดรถเต็มก็ขับไปจอดตรงหน้าหมุ่บ้านได้ แล้วเดินจากจตุรัส Saint Anthony’s โดยใช้ อุโมงค์ทางเชื่อม La Curta แล้วมาขึ้นกระเช้า Seilbahn Seceda ไป Seceda (รอบสุดท้าย 17:30) จอดรถตรงชั้นใต้ดินของสถานีกระเช้า หรือไปเจอรถเยอะแบบออมนัท สามารถจอดตรง Parkplatz ก็ได้นะ เราจะเดินผ่านตัวเมืองแล้วมีบันไดเลื่อนพาไปถึงทางขึ้นกระเช้าค่ะ (เสียค่าจอดชั่วโมงละ 3 ยูโร) ซื้อตั๋วกระเช้าไป-กลับ Seceda คนละ 34 ยูโร หรือใครแพลนจะไป Alpe di Siusi ภายในวันเดียว ก็แนะนำให้ซื้อตั๋ว Dolomiti Super Summer เป็นตั๋วแบบรวมที่ใช้ได้ภายในหนึ่งวัน (ราคา 47 ยูโร) ใช้ขึ้น Alpe di Siusi และ Resciesa / มี Gardena Card ที่ใช้ขึ้นกระเช้า / เเชร์ลิฟต์ 16 แห่งในเขต Val Gardena เเบบไม่จำกัดจำนวน มีเเบบ 3 วัน (ราคา 73 ยูโร) และแบบ 6 วัน (ราคา 98 ยูโร) ค่ะ
ตอนแรกแพลนวันนี้จะไปอีกหลายที่ แต่พอได้ขึ้นมาบน Seceda แล้วก็เทแพลนอื่นทิ้งไปเลยค่ะ คือสามารถเดินเล่นได้ทั่วบริเวณเลย มันชิว อากาศเย็นสบาย แค่นั่ง ๆ นอน ๆ อยู่บนหญ้านุ่ม ๆ ดูวิวก็ลืมเวลาแล้วค่ะทุกคน เชื่อเถอะใครมีเวลาหน่อยให้แพลนที่นี่อยู่ทั้งวันได้เลย
ด้านบนก็มีร้านอาหาร คาเฟ่เป็นกระท่อมอยู่นะ ออมนัทมาถึงเที่ยงพอดีเลยเลือกมาทานอาหารที่ร้าน Baita Sofie Hutte ค่ะ นั่งตั้งแต่เที่ยงจนถึงกระเช้ารอบสุดท้ายเลย ฮ่าๆ ชิวจริง!
Gardena Pass (Passo Gardena) ออกมาจากเมือง Ortisei ไปไปต่อยังด้านตะวันออกของโดโลไมท์ ซึ่งจะต้องขับผ่านถนนเส้น Gardena Pass ตลอดทางจะมีวิวสวย ๆ ให้จอดถ่ายรูปอยู่เป็นระยะ ๆ เลยค่ะ
Passo Gardena เป็นชื่อเรียกเส้นทางคดเคี้ยวตามภูเขาในเส้นทางสาย Great Dolomite Road อยู่สูง 1,235 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ที่มีภูเขาสูงอลังการ ทั้งวิวทุ่งหญ้าสีเขียวสลับไปกับบ้านไม้ เป็นภาพที่มองแล้วไม่เบื่อเลยค่ะ
และ 2 คืนสุดท้ายออมนัทเลือกพักแถว Bodnerhof ค่ะ จะอยู่ใกล้กับ Lake Braies ประมาณ 10 นาที และก็อยู่แถวถนนใหญ่ที่สามารถขับกลับไปยังสนามบินได้เร็วที่สุดค่ะ
Hotel Bodnerhof เป็นอพาร์ทเมนต์มีทั้งหมด 3 ชั้น แบ่งแต่ละชั้นเป็น 2 ห้อง ซึ่งบอกเลยว่ากว้างมาก อยู่สบาย มี่ทั้งหมด 2 ห้องนอน ห้องครัว ห้องนั่งเล่น และระเบียงชมวิว บรรยากาศดีมาก เงียบสงบ ราคาก็ดีค่ะ ประมาณคืนละ 7,000 บาท หารกับเพื่อนสบายเลย
ทางไปจองที่พัก Bodnerhof
Day 4 : Lago di Misurina - Passo di Gian
เล่าก่อนว่าแพลนทริปในวันนี้ออมนัทตั้งใจจะไปเดิน Trekking ที่ Tre Cime Di Lavaredo, Candini di Misurina ค่ะ แต่พอขับไปถึงถนนทางเข้าไปที่จอดรถยอดเขา เจอรถติดนานมากเือบชั่วโมง เลยยอมแพ้กลับรถเปลี่ยนแพลนใหม่ (บอกเลยว่าเสียดายมาก เป็นเส้น Trail ที่อยากเดินมาก ถือเป็นอีกไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเลยค่ะ ไว้จะกลับมาใหม่)
Lago di Misurina ขับมานั่งพักอีกหนึ่งทะเลสาบสุดฮอตกัน Lago di Misurina บนระดับความสูง 1,754 เมตร แนะนำมาช่วงเช้า หรือเย็น ๆ ก็จะได้เห็นภาพน้ำทะเลสาบใสเป็นกระจกเลยค่ะ
กดลิงค์จองรถเช่าราคาถูก ตรงนี้ ได้เลยค่ะ
Passo di Giau เมื่อเปลี่ยนแพลน ช่วงเย็นก็ต้องหาที่ถ่ายรูปแทนการเดินเขา ใกล้ ๆ กับเมือง Cortina d’Ampezzo ค่ะ ปักหมุดถนนเส้นนี้ไว้เลย เพราะสวยมากกกกกก อีกแล้วค่ะ
จุดไฮไลท์คือภูเขารูปทรงปิรามิดที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่นี่ชื่อ Ra Gusela และรายล้อมไปด้วยทุ่งหญ้า ดอกไม้ วิวภูเขารอบตัว 360 องศาเลยค่ะ
Day 5 : Dolomites > Bergamo
Lago di Braies ทะเลสาบที่เป็นหนึ่งใน Instagramable Spot ที่ฮิตมาก มาถึง Dolomites ไม่แวะเข้ามาเที่ยวคงเหมือนขาดอะไรไปสักอย่างแน่นอน ทะเลสาบสีเทอร์คอยซ์ น้ำใสราวกับกระจก ตั้งอยู่บนพื้นที่ความสูง 1,496 เมตร สามารถเดินเที่ยวระอบทะเลสาบได้
ในช่วง high season ( ตั้งแต่มิ.ย. - ต.ค.) จะสามารถเช่าเรือไม้ลงไปพายได้ ค่าเช่าเรือแบบ 45 นาที ราคา 50 ยูโร นั่งได้ 4 คน
ตรงที่พายเรือจะเริ่มเปิดตั้งแต่ 10:00-16:00 ถ้าอยากมาถ่ายแบบไม่มีคนออมนัทแนะนำให้มาตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่หรือหลังสี่โมงเย็นค่ะ (แต่จะไม่ได้พายเรือนะ) แสงช่วงเช้าจะสวยมาก เห็นเป็นเงาสะท้อนน้ำแบบชัดเจน
จอดรถที่ลานจอดหน้าทะเลสาบได้เลย ค่าจอดรถ 8 ยูโร ราคาเดียว ตรงนี้ก็มีโรงแรมให้พักด้วยนะ ถ้ามีโอกาสก็เผื่อเวลาสักคืนมานอนก็ดีค่ะ
Lago di Carezza ก่อนเอารถเช่าไปคืนที่สนามบิน Milan Bergamo Airport ออมนัทแวะเข้ามาดู Carezza lake ค่ะ จะอยู่ติดกับลานจอดรถเลย เดินนิดหน่อยจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว สามารถเดินลงบันไดไปยังชั้นใต้ดินของอาคาร แล้วเดินผ่านอุโมงค์ลอดใต้ถนนเพื่อไปยังจุดชมวิวริมทะเลสาบได้ เสียค่าที่จอดชั่วโมงละ 1 ยูโร ในบริเวณนั้นจะมีร้านค้าและห้องน้ำเข้าฟรีค่ะ
Carezza lake คือทะเลสาบขนาดเล็กที่มีน้ำสีเขียวมรกต ใสเป็นกระจกและวิวฉากหลังอันสวยงามของเทือกเขา Latemar
จบ 5 วัน 4 แพลนทริปแบบหลวมสุด ๆ เอาใจสายชิล อยาก take time อยู่แต่ละที่นาน ๆ เพราะเอาจริงแพลนที่วางไว้มันแน่นเหมือนกันค่ะ ยังไม่ได้เก็บที่ไฮไลท์อีกหลายที่เลย และก็เข้าใจเลยว่ามา Dolomites ครั้งเดียวไม่จบแน่นอน พอถึงสถานที่จริง skip แพลนอื่นทิ้งไปหมด นอนชิวชมวิวเพลินมากจริง ๆ เอาเป็นว่าถ้ามีโอกาสก็อยากจะกลับมาอีกครั้งแน่นอน
ทริปเที่ยวยุโรปในช่วงฤดูร้อนนี้ยังไม่จบน้า รีวิวต่อไปจะพานั่งเครื่องบินไปจอดลงพื้นที่เกาะกลางทะเลของมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ กับวิว landscape หลุดโลก ที่ Faroe Islands หมู่เกาะแฟโรนั่นเองค่ะ รอติดตามน้า
พิกัดจองที่พัก รถเช่า ราคาถูก
ที่พัก : Seiser Alm Plaza - Bodnerhof
รถเช่า : CLICK!!
ตั๋วเครื่องบิน : CLICK
Comments