top of page

Faroe Islands ประเทศสุดแปลก อยู่ที่ไหนบนโลกนะ?!

อัปเดตเมื่อ 1 ต.ค.

นี่คือ Faroe Islands ‘The land of Maybe’ ประเทศที่มีทิวทัศน์อันหลุดโลก ประเทศที่มีแกะเยอะกว่าผู้คน ประเทศที่ 10 นาทีเจออากาศไปแล้ว 4 ฤดู

15 ข้อควรรู้และเหตุผลว่าทำไมต้องไปหมู่เกาะแฟโร


1 - ถ้าพูดถึง ‘Faroe Islands’ พอพูดชื่อนี้หลายคนต้องสงสัยว่า มันอยู่ที่ใด? ซึ่งที่นี่เป็นประเทศค่ะ อยู่ทางตอนเหนือของทวีปยุโรป เป็นหมู่เกาะกลางมหาสมุทรแอตแลนติกที่อยู่ตรงกลางระหว่าง Iceland, Norway และ Scotland มี landscape ที่ดูเหมือนอยู่อีกดาวในจักรวาลมาก และมีความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร


2 - ในดินแดนลึกลับแห่งนี้ ประกอบไปด้วยเกาะทั้งหมด 18 เกาะ เหมือนเป็นปริศนาจิ๊กซอว์ 18 ชิ้นที่ล่องลอยอยู่ท่ามกลางคลื่นทะเลของมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือและหมู่เกาะแฟโรนี้ เกิดขึ้นมาจากภูเขาไฟ 18 ลูกนั่นเอง


3 - จะยกให้เป็นที่ที่มีธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์ที่สุดอีกที่ก็ไม่ติด เพราะจุดเที่ยวไฮไลท์ต่าง ๆ แทบไม่เจอนักท่องเที่ยวแม้แต่คนเดียว วัน ๆ เจอกันอยู่แค่สองคน ไม่ก็ฝูงแกะที่น่าจะมีเยอะกว่า จำนวนประชากรทั้งประเทศตามความหมายของชื่อประเทศที่แปลว่าเกาะแห่งแกะ มีประชากรทั้งหมดประมาณ 50,000 คน บางหมู่บ้านก็มีชาวบ้านอยู่อาศัยไม่ถึง 20 คนเองค่ะ ทำให้เราสามารถดื่มด่ำ และชื่นชมความอัศจรรย์ของสิ่งที่เรียกว่า Mather of nature ได้แบบไม่ต้องแย่งใคร แถมด้วยอากาศที่แสนจะบริสุทธิ์ 100% นี่มันแทบจะเป็นสวรรค์แล้ว


4 - หมู่เกาะแฟโรอยู่ในเขตการปกครองตนเอง มีสภา กฎข้อบังคับต่าง ๆ เอง แต่ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ ทางการทหารและการต่างประเทศยังขึ้นตรงต่อรัฐบาลเดนมาร์กอยู่


5 - Visa ต้องทำวีซ่าเชงเก้นจากสถานทูตเดนมาร์กเท่านั้นค่ะ เวลาไปขอแจ้งด้วยนะว่าจะเดินทางไปหมู่เกาะแฟโรค่ะ ก็จะได้วีซ่าเชงเก้นที่เขียนว่า valid to Faroe Islands นั่นเอง ออมนัททำวีซ่ากับ Worship Visa นะ ให้เค้าจัดการเอกสารต่าง ๆ ให้เราได้เลย ไม่ต้องเตรียมเองให้วุ่นวาย แค่เอาตัวไปวันยื่นก็ได้วีซ่าเรียบร้อย


Worship Visa รับทำวีซ่าทั่วโลก ใครจะเที่ยวที่ไหนติดต่อไปได้เลยค่ะ

ค่าบริการ วีซ่าเชงเก้น อยู่ที่ 3,000 บาท นอกนั้นก็จ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าของแต่ละประเทศตามปกติค่ะ

ถูกที่สุด รวดเร็วที่สุด ได้คิวเร็วที่สุด ดูแลประทับใจมาก

- กรอกแบบฟอร์มวีซ่า

- จองนัดยื่นเอกสัมภาษณ์ ยื่นเอกสารด่วนสุด

- ทำจดหมายแนะนำตัว จดหมายเชิญ

ฟรี - จองตั๋วเครื่องบิน + โรงแรม พร้อมแพลนการท่องเที่ยว

ฟรี - แปลเอกสาร โดยผู้เชี่ยวชาญ

ฟรี ให้คำปรึกษาในทุกเรื่อง


วีซ่าออกทุกวัน ไม่ต้องกังวลเรื่องเอกสาร การันตีด้วยทีมงานมืออาชีพ

ปรึกษาฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง

โทรศัพท์: 092-3738336 / 062-9565251 / 062-5255758

LINE ID: worshipvisa / 0625255758


หน้าตาของ Visa จะมีเขียนว่า Valid to Faroe Islands แบบนี้ค่ะ

6 - วิธีการเดินทางไป Faroe Islands จะมีไฟลท์บินจากแค่ 7 เมืองในยุโรป หรือจะนั่งเรือข้ามคืนจาก 3 เมืองเล็กๆ ในยุโรปก็ได้แต่ใช้เวลาเดินทางนานมากค่ะ ซึ่งวิธีที่สะดวกที่สุดคือ ออมนัทบินจาก Copenhagen ประเทศเดนมาร์กใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมงค่ะ


7 - แนะนำให้ขับรถเที่ยวจะสะดวกที่สุดค่ะ ถ้าคิดจะนั่งบัสเที่ยวแล้วละก็ลำบากแน่นอน ทั้งเวลารถบัสและบาง stop ไม่เอื้อต่อการเที่ยว ฉะนั้นเช่ารถเท่านั้นค่ะ ราคามีหลากหลาย แต่ก็สูงอยู่ การขับรถไม่ยากค่ะ แทบจะไม่ค่อยเจอรถเลย ถนนทำดี จะมีบางที่เที่ยวจะเจอถนนเลนเดียว แต่เค้าก็จะมีจุดจอดข้างทางให้สวนกันได้ และการขับเที่ยวข้ามเกาะต่าง ๆ ใน Faroe Islands ก็มีอุโมงค์ใต้ทะเล สะพาน หรือเอารถขึ้นเรือข้ามเกาะเชื่อมต่อกันได้หมด


8 - สกุลเงินที่ใช้คือ Faroese króna DKK1 = ประมาณ 5 บาทไทย


9 - เที่ยวหมู่เกาะแฟโรช่วงไหนดี ที่นี่มีทั้งหมด 4 ฤดูค่ะ คือ

Spring ฤดูใบไม้ผลิ เดือนมีนาคม - พฤษภาคม

Summer ฤดูร้อน มิถุนายน - สิงหาคม

Autumn ฤดูใบไม้ร่วง เดือนกันยายน - พฤศจิกายน

Winter ฤดูหนาว เดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์


10 - ด้วยที่ว่ามี landscape เว่อวัง ภาพของวิวภูเขาหญ้าสูงชัน มีน้ำตกจำนวนนับไม่ถ้วน ตัดสลับกับบ้านไม้หลังคามุงหญ้าที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของที่นี่ และการปลูกหญ้าบนหลังคานั่นก็ช่วยระบายอากาศได้ดีในหน้าร้อน เลยเป็นสวรรค์ของช่างภาพมากค่ะ เพราะไม่ว่าจะหันกล้องไปทางไหน ก็ได้ภาพที่สวยงามและแปลกไม่ซ้ำใคร


11 - มี hiking trail เยอะมากและติดอันดับโลกอีกที่หนึ่ง แต่ละที่ก็สามารถเดินไปชมจุดว้าว ๆ ได้แบบไม่ต้องออกแรงมาก


12 - อาหารการกิน ค่าครองชีพสูงเอาเรื่อง Supermarket หลักมีไม่เยอะออมนัทชอบเข้า Bonus มากกว่าค่ะของเยอะดี และสายแอลก็จะมีร้านขายแยกนะ และควรจองบ้านที่มีครัวทำอาหารกินเองได้จะประหยัดขึ้นค่ะ ราคาบ้านพักไม่ค่อยแรงนะ 2 คืนแรกออมนัทพักที่เกาะหลักที่ Vágar กับอีก 2 คืนไปนอนที่เกาะย่านใกล้ ๆ เมืองหลวง Tórshavn คืนละ 7,000.- หน่อย ๆ ค่ะ


13 - การเขียนแพลนเที่ยวไม่ค่อยยากค่ะ เพราะจุดถ่ายรูปก็เป็นตามที่เที่ยวไฮไลท์ต่าง ๆ เลย เที่ยวเป็นโซน ๆ เอาจะได้ไม่เสียค่าทางเชื่อมอุโมงค์หลายรอบ


14 - เรื่องอาหารการกิน ให้เตรียมเครื่องปรุงไทย น้ำพริก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โจ๊กซองไปด้วยก็ดีค่ะ เพราะอาหารราคาสูง เน้นทำอาหารที่พักจะประหยัดกว่า, ส่วนสายแอลจะมีร้านขายแยกโดยเฉพาะ ซุปเปอร์มาร์เกต ร้านขายของจะปิดทุกวันศุกร์เพราะคนบนเกาะเข้าโบสถ์กันค่ะ


15 - เตรียมเสื้อคลุมกันหนาว กันลมไปเผื่อด้วยน้า ในหนึ่งวันเราอาจจะได้เจอครบทุกสภาพอากาศค่ะ


รับรองว่าคนรักธรรมชาติต้องชอบมากแน่นอนค่ะ มันมีความ Pure Nature ที่แท้ทรู อยู่กับตัวเอง เทควิว สูดอากาศอันแสนจะบริสุทธิ์กันให้เต็มปอดได้เลย


แพลนทริปเที่ยว 4 คืน Faroe Islands ของออมนัทค่ะ

บอกก่อนว่าทริปนี้ตั้งใจไปพักผ่อน แบบสูดอากาศดูธรรมชาติ ไม่เร่งรีบ ใช้ชีวิตเรื่อย ๆ จะออกเที่ยววันละที่ 2 ที่ เท่านั้นค่ะ เลยแยกการเที่ยวเป็น 2 เกาะหลัก คือ 2 คืนแรกอยู่ที่เกาะ Vágar เป็นเกาะที่ตั้งของสนามบิน และอีก 2 คืนจะอยู่ที่เกาะเมืองหลวงอย่างเมือง Tórshavn

ออมนัทเดินทาง 21-25 มิถุนายนค่ะ จริง ๆ เป็นช่วงฤดูร้อน แต่บอกเลยว่าหนาวมาก ลมแรง ฝนตก แดดออก หมอกลง เจอทุกฤดูใน 1 วันของจริง ยังไงก็เตรียมเสื้อกันหนาวกันลมด้วยจะดีมาก ๆ ค่ะ


Day 1 : บินจากสนามบิน Copehegan > Vagar Airport > เข้าที่พัก

Day 2 : Gasaladur, Múlafossur Waterfall

Day 3 : Drangarnir > Bøur > Tórshavn

Day 4 : Saksun Village , Fossá Waterfall

Day 5 : Vagar Airport >  Copenhagen


ค่าใช้จ่ายทั้งทริป

  1. ตั๋วเครื่องบิน CHP-FAE 14,000 บาท/คน

  2. รถเช่า 5 วัน + ประกัน DKK4,014 (21,275 บาท)

  3. ค่าเข้าอุโมงค์เชื่อมเกาะ DKK100 (530 บาท)

  4. ค่าทัวร์ Drangarnir   DKK960/คน (9,880 บาท)

  5. ที่พักเกาะ Vagar DKK2,127.65 (11,300 บาท) ทางไปจองที่พัก > คลิ๊กที่นี่

  6. ที่พัก Airbnb เกาะหลัก 14,660 บาท

  7. น้ำมัน 1,225 บาท

  8. Supermarket                        3,200 บาท

  9. เครื่องดื่ม                            4,261 บาท

    รวมทั้งหมด (2 คน) 88,579 บาท


------------------------------------------------------------------


Day 1 : Vagar

ออมนัทเดินทางจากเมือง Copehagen ประเทศเดนมาร์กค่ะ ใช้เวลาประมาณ ค่าตั๋วเครื่องบิน 14,000/คน (ไป-กลับ) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ แนะนำให้นั่งฝั่งซ้ายนะ ได้มองวิวจากหน้าต่างสวยมาก

ทางไปจองรถเช่าราคาถูก > คลิ๊กที่นี่

เมื่อถึงสนามบินออกจากประตูแล้วให้เลี้ยวซ้ายค่ะ เคาท์เตอร์รถเช่าต่าง ๆ ที่อยู่ที่นี่หมดเลย ออมนัทเช่ารถ ทั้งหมด 5 วัน


การขับรถเที่ยวเกาะแฟโรออมนัทจะแบ่งเป็นสองช่วงค่ะ ครึ่งแรกจะเที่ยวบนเกาะ Vagar และอีกครึ่งหลังจะเที่ยวบนเกาะเมืองหลวงอย่าง Torshavn ค่ะ


พอแลนด์ถึงหมู่เกาะแฟโรปุ๊ป ฟ้าก็มืดครึ้มทั้งครึ่งบ่ายเลยค่ะ ออมนัทเลยเข้าซุปเปอร์มาร์เกตซื้อของสดแล้วเข้าเช็คอินที่บ้านพักบนเกาะ Vagar Island เลยค่ะ

บ้านที่เราจอง 2 คืนแรกเป็นแบบ Apartment เลยค่ะ น่ารักมาก สีขาวไม้ สะอาด เตียงนุ่ม ฮิตเตอร์อุ่น มีทีวจอใหญ่ดูหนังฟังเพลงมี Netflix มุมโต๊ะทานอาหาร ครัวที่มีอุปกรณ์ครบครันและเครื่องซักผ้า ในราคา DKK2,127.65 (รวมภาษีแล้ว) ตกคืนละ 5,000 บาทเอง ชอบมาก ดีมาก แนะนำเลย

ทางไปจองที่พัก > คลิ๊กที่นี่

ข้าวของในซุปเปอร์ราคาค่อนข้างสูงเลยค่ะ อย่างเนื้อ 2 ชิ้นประมาณ์ 650 บาท หรือผักสดก็หลักร้อยบาทเลยค่ะ ส่วนใครสายดื่มจะเป็นร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะเลยค่ะ และทุกวันศุกร์ตามร้านต่าง ๆ จะปิดนะคะ เนื่องจากคนท้องถิ่นจะเข้าโบสถ์ทุกวันศุกร์ค่ะ


Day 2 : Gasaladur, Múlafossur Waterfall

วันนี้เราจะเริ่มเที่ยวกันแล้วค่ะ ขับตรงไปที่เมือง Gasaladur ค่ะ

ขับรถมาจนสุดทางถนนถึงหมู่บ้าน จะมีที่จอดรถอยู่ เพื่อน ๆ สามารถเดินเล่นรอบหมู่บ้านเสพวิวได้ตามสบายเลย


Múlafossur Waterfall

เป็น hi-light ที่ไปถึงง่ายที่สุดแล้วในบรรดาที่เที่ยวต่าง ๆ ในเกาะแฟโร และยังเป็นน้ำตกสัญลักษณ์ของที่นี่อีกด้วยนะ จากที่จอดรถเดินเข้าไปประมาณ 400 เมตร ผ่านประตูเข้าไปนิดเดียวก็ถึงจุดชมน้ำตกและมุมถ่ายรูปยอดอิตแล้วค่ะ ซึ่งบอกเลยว่าออมนัทไม่เจอใครเลยนอกจากเราสองคนและธรรมชาติแบบโคตรจะ 100% นั่นเลยทำให้มีเวลาดื่มด่ำมันแบบเต็มที่

และด้วยความโดดเด่นที่มีน้ำเพียงแค่สายเดียวไหลจากผาลงสู่ทะเล พร้อมหมู่บ้านน้อย ๆ อยู่หลังน้ำตก และฉากหลังเป็นภูเขาสูงสีเขียวเหมือนแต่งสีภาพมาแล้ว มันเกินจริงไปมากทุกค๊นนน


Day 3 : Drangarnir > Bøur > Tórshavn

วันนี้เราจองทริป Boat tour ที่พาไปอีกหนึ่งจุดไฮไลท์แบบง่ายที่สุด สบายที่สุดเพียงแค่ใช้เงินแก้ปัญหาสำหรับสายขี้เกียจอย่างเรานั่นเองค่ะ เพราะถ้าปกติก็จะต้องเดิน Trails เป็น 10 กิโลเมตร (สำหรับใครชอบเดินก็จะดีไปอีกแบบตรงที่เราได้ให้วิวตามทางสวยๆไม่ซ้ำใคร แต่ต้องมีการจองและ bokking ให้ไกด์พาเดินเท่านั้นนะ ไม่สามารถเดินดุ่ม ๆ เข้าไปได้ค่ะ)

Boat tour ที่ออมนัทจองชื่อว่า : Exciting 2 Hour Combined Boat Tour & Hike to Drangarnir เวลา 11:00น.-13:00น. ประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ (ราคา 960DKK/คน)


Drangarnir

หินรูปทรงหัวตัดสุดประหลาดหลุดโลกที่โผล่มากลางทะเล เป็นอีกหนึ่งภาพที่ทำให้ออมนัทอยากมาที่นี่




Bøur Village

เป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่ ที่โดดเด่นด้วยบ้านที่มุงหลังคาด้วยหญ้า มีภูเขา Drangarnir และ Tindhólmur (ที่เราไป Boat tour มา) เป็นฉากด้านหลัง พร้อมกับวิวทะเล สามารถจอดรถที่หมู่บ้านแล้วเดินชมวิว ถ่ายรูปได้ค่ะ


แวะถ่ายรูปที่ Bour Village เสร็จช่วงเย็นก็ขับรถข้ามเกาะมายังเกาะของเมืองหลวง Tórshavn กันค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ผ่านอุโมงค์ใต้ทะเล

ที่พักอีก 2 คืน ออมนัทพักที่หมู่บ้าน Velbastaður ใกล้ ๆ กับตัวเมือง  Tórshavn 10 นาทีเองค่ะ

เลือกที่นี่เพราะชอบออกห่างตัวเมืองหน่อย จะได้ไม่วุ่นวายมาก และวิวจากที่พักก็สวยมากเช่นกัน


Day 4 : Saksun, Fossá

วันนี้จะขับรถมุ่งหน้าขึ้นเหนือ ระยะทางจาก Tórshavn ถึง Saksun ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนิด ๆ ค่ะ ขับเส้นถนน Oyggjarvegur หมายเลข 50 เลยค่ะ

ระหว่างทางก็จะผ่านอ่าว Kaldbaksbotnur แวะจอดรถชมวิวอ่าว ถ่ายรูปได้เลย เห็นออมนัทมั้ย ตัวจิ๋วมาก ธรรมชาติเค้ายิ่งใหญ่จริง ๆ ค่ะ

ระหว่างทางก็คือร้องว้าวตลอด มันเป็นภาพ Lanscape ทีฟิลเหมือนเราหลุดออกไปอยู่อีกโลก น้ำตกไหลลงสู่ทะเลนับไม่ถ้วน ภูเขาหญ้าสีเขียวแบบเหมือนแต่งสีรูปมาแล้ว หินผาที่ตัดสลับเขาสูง


Fossá Waterfall

ขับตรงมาตามทางถนนเส้นเดียวที่ค่อนข้างแคบหน่อยเพราะมีเลนเดียว ก็จะเจอกับ Fossá Waterfall ป็นน้ำตกที่สูงที่สุดใน Faroe Islands ค่ะ


สำหรับกระเป๋าที่ใช้ใส่ Laptop ตลอดทริป หยิบจับเอาออกมาใช้งานง่าย ออมนัทใช้ของ Pacsafe ขึ้นชื่อเรื่องความอึด ถึก ทนกันรวยขีดข่วนและกันการกรีดล้วงกระเป๋าจากแก๊งค์โจรได้ แล้วที่ชอบคือรุ่นนี้ ใส่ Macbook ขนาด 16 นิ้ว และ iPad Pro 12 นิ้ว ได้แบบพอดี ยังไงก็เป็นกระเป๋าแบรนด์โปรดที่ออมนัทใช้มาเองไม่รู้กี่รุ่นแล้วค่ะ

Package Vibes 150 anti-theft sling pack
Pacsafe Metrosafe X16" Commuter Backpack ANTI-THEFT

Saksun

เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนไหล่เขา มีน้ำตกขนาดใหญ่อยู่รอบ ๆ โอบล้อมไปด้วยภูเขาสูง ตรงหน้าเป็นอ่าวที่มีหาดทรายดำ พร้อมกับช่องเขาเล็ก ๆ ไปสู่สหามุทร ที่ห่างไกลผู้คน เพราะการจะเข้าไปที่หมู่บ้านนี้ มีเส้นทางเดียวเท่านั้น และเป็นถนนเลนเดียวนะ ระหว่างขับเข้าถ้าเจอรถสวนมาให้หลบตามไหล่ทาางที่เค้าทำไว้

ในหมู่บ้านจะมี Saksunar Kirkja เป็นโบสถ์สีขาวเล็ก ๆ มีความสำคัญและเก่าแก่มาก

และนี่คือภาพของหมู่บ้าน Saksun อันโด่งดังอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ออยากมาให้เห็นกับตา แล้วตอนออมนัทไปหมอกกำลังลง ตัดกับภูเขา มีน้ำตกไหลจากผาสูง บ้านไม้เก่าแก่มุงหลังคาด้วยหญ้า โอ้โหนี่มันภาพเหมือนฝันสุด ๆ


Day 5 : Tórshavn > Vagar Airport > Copehegan

ก่อนกลับไปสนามบินก็แวะมาเดินเล่นในเมืองหลวงสักหน่อยค่ะ ซึ่งตามชื่อของเมือง แปลได้ว่าเป็นท่าเรือของเทพเจ้าธอร์นั่นเอง และด้วยจำนวนประมาณ 17,000 คน ทำให้ Tórshavn เป็นหนึ่งในเมืองหลวงที่เล็กที่สุดในยุโรป

บ้านเรือนและตึกแถวที่มีสีสันสวยงามเรียงรายริมท่าเรือก็จะได้ฟิลคล้ายๆ กับ Nyhavn ในเมือง Copenhagen ที่เรากำลังจะไปเลย



ดู 351 ครั้ง

תגובות


ABOUT US
profile.jpg

Om & Nut

Welcome to our blog guys! Let's explore luxury hotel destination around the world with us. We love traveling and sharing stories about couple goals together with beautiful scenic photography and video. 

EXPLORE THE WORLD
POPULAR
bottom of page