ขับรถเที่ยวอิตาลีครั้งแรก เก็บเมืองไฮไลท์ต้องไป Venice-Tuscany-Rome
แจกแพลนทริปขับรถเที่ยวประเทศอิตาลี (Italy) ทริปขับรถเที่ยวประเทศอิตาลี ด้วยตัวเอง
5 วัน 4 คืน เราจองรถกับ DiscoverCar ราคาถือว่าถูกเลยรวมประกันด้วยแล้วก็มี Qeeq ที่ราคาดี ทริปนี้ เก็บ 3 เมืองหลัก กับสถานที่เที่ยวไฮไลท์ ในเมืองสุดโรแมนติก แพลนที่เหมาะกับคนที่มีเวลาชิล ไม่ชอบเร่งรีบ
ได้อิ่มเอมกับบรรยากาศ ความสวยงามของทุกที่อย่างจุใจ
แพลนทริปขับรถเที่ยว Italy 6 วัน 5 คืน (เดินทางเดือนธันวาคม)
Day 1 : เดินทางจาก Paris > Venice
Day 2 : Venice
Day 3 : Venice > Florence > Toscana Day 4 : Pisa Day 5 : Rome
Day 6 : Rome > Bangkok
ทางไปจอง โรงแรมใน Venice , โรงแรมใน Florence, โรงแรมใน Pisa ทางไปจองรถเช่า : DiscoverCars
ดูคลิปรีวิวเที่ยวอิตาลีโซนกลางได้เลยน้า
Day 1 : Paris > Venice
สำหรับทริปอิตาลีนี้ออมนัทเริ่มต้นเดินทางจากปารีส ประเทศฝรั่งเศสค่ะ นั่งเครื่องมาที่สนามบินเวนิส แล้วนั่งเรือ Private Boat Taxi เข้าที่พัก ที่พักเราจองแบบ 2 ห้องนอน มีห้องนั่งเล่น ห้องครัวทำอาหาร 2 ห้องน้ำ มีหน้าต่างเห็นเป็นคลองสวยงามมาก
ทางไปจอง โรงแรมใน Venice , โรงแรมใน Florence, โรงแรมใน Pisa
Day 2 : Venice
Venice เมืองที่ได้รับฉายาว่า "City of Water" เพราะเป็นเมืองที่มีคลองมากที่สุดในโลก เดินทางกันด้วยเรือสะส่วนใหญ่ บ้านเมือง ตึกสีสันต่าง ๆ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โรแมนติกที่สุดในโลก มีสถาปัตยกรรมอันคลาสสิก และเชื่อว่าเป็นถิ่นกำเนิดของตำนานรักอมตะ Romeo and Juliet อีกด้วยค่ะ
เมืองบนน้ำสุดแสนจะมีเสน่ห์อย่างมหัศจรรย์ ประกอบไปด้วยเกาะเล็กๆกว่า 118 เกาะเชื่อมต่อกัน ถนนที่นี่ก็คือน้ำทะเล ที่มีตรอกซอกซอย สะพานข้ามเกาะมากมาย ที่ผู้คนเดินทางโดยใช้เรือเท่านั้น ตึกสีสันสดใส ความเก่าสุดคลาสสิค บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกจริง ๆ
มุมถ่ายรูปกับ สะพานริอัลโต (Ponte di Rialto หรือ Rialto Bridge) หนึ่งในสะพานข้ามคลองใหญ่แกรนด์คาแนลที่มีความเก่าแก่ที่สุด และเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันมากที่สุดอีกด้วยค่ะ
กิจกรรมไฮไลท์คือนั่งเรือกอนโดล่า (Gondola) ล่องเรือในคลองใหญ่ Canale Grande (Grand Canal) ซึ่งเป็นคลองสายหลักและเป็นเส้นทางคมนาคมสำคัญของเวนิส คลองใหญ่นี้มีความยาว 3.8 กิโลเมตร กว้าง 30-90 เมตร และมีความลึกเฉลี่ย 5 เมตร ราคามีหลากหลายมากค่ะ นั่งได้ 30 / 60 นาที สูงสุด 4 คน
ภายในเวนิสหลัก ๆ เราก็สามารถเดินเล่นได้ตามตรอกซอกซอยต่าง ๆ มีร้านขายของที่ระลึก มีร้านขนม ชอปแบรนด์ต่าง ๆ ให้ช้อปปิ้งและร้านไอศครีมที่ต้องลอง
มาเที่ยวเวนิสแล้วต้องไปที่ จัตุรัสซานมาร์โค (Piazza San Marco หรือ St. mark’s square) จัตุรัสขนาดใหญ่ที่เป็นเหมือนศูนย์กลางของเมือง และสามารถชม มหาวิหารซานมาร์โค (St. Mark’s Basilica) มหาวิหารโรมันคาทอลิก ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานศิลปะยุคไบเซนไทน์ โรมาเนสก์ โกธิค เรอเนสซองซ์ เข้าด้วยกัน มีความปราณีตและสวยงามมากค่ะ
Day 3 : Venice > Florence
นั่งเรือออกจากเวนิสแล้วเช่ารถขับกันต่อค่ะ ทางไปจองรถเช่าตรงนี้ ขับรถจากเวนิสมาที่เมือง ฟลอเรนซ์ (Florence) ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อไปชมสถานที่สุดฮิตและงานศิลปะระดับโลกกัน
Florence ตั้งอยู่ที่ภาคกลางของประเทศ เมืองต้นกำเนิดของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (ยุคเรอเนสซองซ์ – Renaissance) เป็นเมืองหลวงของแคว้นทัสคานี (Tuscany หรือ Toscana) บ้านเกิดของศิลปินระดับโลก อย่าง ลีโอนาร์โด้ ดาวินชี่, ไมเคิลเองเจโล, กาลิเลโอ และแบรนด์แฟชั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอิตาลีอย่าง Gucci ยังกำเนิดมาจากที่นี่ด้วยค่ะ
Cathedral of Santa Maria del Fiore หรือ Duomo แลนด์มาร์กที่สำคัญที่สุดในเมือง โดมจะมีสีส้ม ออกแบบโดย Brunelleschi ซึ่งเป็นโดมอิฐที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตัววิหารเป็นงานสลักหินอ่อน ใช้เวลาสร้างถึง 140 ปี ทุกคนเชื่อมั้ยว่าแว๊บแรกที่เห็นคือต้องตาต้องใจมาก แล้วยิ่งเดินมาไปใกล้เรื่อย ๆ ก็จะยิ่งรู้สึกว่ามันยิ่งใหญ่อลังการอะไรขนาดนั้น แถมสวยจนละสายตาไม่ได้เลย
Florence Cathedral ออมนัทไปนั่งที่คาเฟ่ที่มีดาดฟ้าค่ะ จะสามารถถ่ายรูปกับมหาวิหารฟลอเรนซ์ได้แบบนี้เลย
เมืองฟลอเรนซ์ไม่ใหญ่มากนะ เดินเล่นไปมาก็จะเห็น Cathedral of Santa Maria del Fiore หรือ Duomo อยู่ทุกมุมเพราะมันใหญ่มากจริงๆ
Galleria dell’Accademia ใกล้ ๆ กันนั้นออมนัทตั้งใจอยากจะมาเห็นรูปปั้น เดวิด David สักครั้งในชีวิต เพราะว่าออมเรียนเกี่ยวกับศิลปะมาในสมัยเรียนที่วิจิตรศิลป์ เลยตื่นเต้นที่สุดเลยค่ะ
รูปปั้น เดวิด โดยมิเกลันเจโล หรือ ไมเคิลเองเจโล หนึ่งในรูปปั้นที่ดังที่สุดในโลก ซึ่งมิเกลันเจโลเป็นคนแรกที่เลือกเล่าเรื่องของ เดวิด ในตอนก่อนจะสู้กัน ลักษณะยืนในท่าทีที่ผ่อนคลาย แต่ก็มองไปด้วยสายตามุ่งมั่น และด้วยเรื่องกายวิภาคที่มีรายละเอียดสมบูรณ์สวยงามเหมือนมนุษย์จริง จึงทำให้เป็นรูปปั้นนี้ที่มีชื่อเสียงนั่นเองค่ะ จะ
มีความสูงประมาณ 5 เมตร ใหญ่มากๆ นะทุกคน คืออมยืนดูรายละเอียดการปั้นแบบเพลินมาก เพิลนจนไม่ดูเวลาเลย สวยทุกมุมทุกองศา หลงเสน่ห์แบบไม่รู้ตัวจริง ๆ ยิ่งถ้าใครเรียนด้านศิลปะมาก ออมว่าสักครั้งในชีวิตมาเห็นมันตื่นตันมากที่สุดเลย
ช่วงเย็นขับรถเข้าที่พักที่ Toscana ค่ะ ออมนัทนอนที่นี่ 2 คืนที่เลือกพักตรงนี้คือเราสามารถขับไปสถานที่เที่ยวไฮไลท์อย่าง Florence และ Pisa ในวันพรุ่งนี้ค่ะ
ที่พักน่ารักมากเป็นบ้านหลังแยกออกมาจากบ้านเจ้าของ ซึ่งมีน้องหมาน้องแมวน่ารักสุด ๆ อยู่ท่ามกลางไร่ Olive และ Winyard ของเจ้าของนั่นเอง ปังมาก
ที่พักนี้เราจองผ่าน Airbnb
Day 4 : Pisa ,Toscana
เช้านี้ขับเข้าเมือง Pisa ค่ะ ยิ่งขับมาโซนนี้คือถนนแคบมาก แนะนำรถไซส์เล็ก ๆ จะสะดวกในการขับเที่ยวตามเมืองอิตาลีมากที่สุดค่ะ
Torre Pendente di Pisa ตั้งอยู่ที่เมืองปิซา หอทรงกระบอก 8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว เป็นหอระฆังองศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก อย่าลืมครีเอตท่าโพสถ่ายรูปคู่ด้วยน้า ออมนัทเอาไอเดียมาฝาก เผื่อใครตามรอยแล้วถา่ยตามได้เลยค่า
Day 5 : Rome
เช็คเอาท์ออกจากที่พักกันตั้งแต่เช้าตรู่เลยค่ะ ประมาณตี 5 เริ่มเดินทางไปกันที่บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติสุดอิต ออมนัทต้องการไปถึงสักช่วงพระอาทิตย์ขึ้นประมาณ 7 โมงค่ะ
เคยเห็นรูปภาพของบ่อน้ำสีฟ้าสด ที่ลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆจากใน IG มาเยอะมาก มีควันสีขาวลอยขึ้นมา ตัดกับแสงของพระอาทิตย์ เอาตรง ๆ เห็นรูปจนเกิดกิเลส พูดกันตลอดว่าสักวันเราจะไปให้ได้!!!! จนวันนี้เหมือนแต้มบุญนำพา มาถึงจนได้
Cascate del Mulino เจ้าบ่อน้ำนี้ เป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ ตั้งอยู่กลางหุบเขา มาจากลำธารสีฟ้าตกลงมาบนบ่อหินปูนสีขาว ลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ แบบที่เห็น มีน้ำแร่และกำมะถันอยู่มาก แช่แล้วรับรองว่ากลิ่นกำมะถันติดตัวทั้งวันเค้าว่ากันว่าช่วยเรื่องในการบำบัดรักษา ที่แช่กันตั้งแต่ยุคสมัยชาวโรมันกันเลยทีเดียว ดูความพีคของเรื่องราวก็ยิ่งทำให้อยากไปแบบสุด ๆ
ใครจะมาแช่ สามารถมานอนพักแถวนี้ได้เลยค่ะ มีที่พักเยอะ และแนะนำมาช่วงเช้าตรู่ เห็นพระอาทิตย์ขึ้น พร้อมแสดงแดดส่องมายังบ่อ แช่น้ำอุ่น ๆ ท่ามกลางอากาศหนาว ๆ พร้อมกับวิวเขาเอย ธรรมชาติอิตาลีเอย มันฟินจนบรรยายไม่ถูกเลยค่ะ
คำแนะนำ
เข้าฟรี เพราะเป็นสถานที่ทางธรรมชาติ
ออมนัทไปเดือนมกราคม ตอนเช้าหนาวแบบหนาวมาก
มีลานจอดรถให้ฟรี เดินประมาณ 200 เมตร
ไม่แน่ใจว่ามีห้องอาบน้ำมั้ย เพราะออมนัทก็ห่มผ้าเช็ดตัวกลับไปเปลี่ยนชุดบนรถแทน
เท่าที่เห็น ไม่มีที่เก็บของนะ เอาเฉพาะที่จำเป็น ใส่กระเป๋าเล็ก ๆ ไปก็พอ ทุกคนเค้าก็ถอด
วางบนเนินดินข้าง ๆ บ่อกันหมดเลย
หยิบไปแค่ผ้าห่ม และเสื้อกันหนาวไว้คลุมตอนขึ้นจากน้ำก็พอ
เวลาที่แนะนำ ใครไหวและมีความกระหาย อยากถ่ายรูปปังแบบไม่มีคน ก็ตามออมนัทเลยค่ะมาช่วงพระอาทิตย์กำลังจะขึ้น เหมือนเหมาไปเลยทั้งสองคน แต่ถ้าใครชิว อยากไปเอาบรรยากาศมากี่โมงก็ได้หมด เพราะที่นี่เปิด 24 ชั่วโมง
ถ้าถามว่ามันต้องไปขนาดนั้นมั๊ย? ออมนัทบอกเลยว่า มันคุ้มและสวยมากกกกกกก! จะต้องเป็นฟิลคนตั้งใจจะไปจริง ๆ แหละ ถ้าไม่อยากขับเหนื่อย แถบ ๆ นั้นก็มีโรงแรมใกล้ ๆ ให้ไปนอนค้างสักคืน ถือว่าชิลดูวิวเขา
ดื่มด่ำฟิล Tuscany ก็ไม่เสียหลายนะ
ขับรถไปต่อกันที่จุดมุ่งหมายสุดท้ายของทริปนี้ที่กรุงโรมนั่นเองค่ะ Colosseum โคลอสเซียม หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก อยู่ในกรุง Rome เป็นสนามกีฬากลางแจ้ง ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสมัยโบราณ ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่าง ๆ เลยค่ะ มุมถ่ายรูปสามารถเดินรอบ ๆ ได้เลย เยอะมาก
Trevi Fountain หนึ่งในลานน้ำพุและอนุสรณ์สถานที่จัดได้ว่าสวยงามที่มีชื่อเสียงระดับโลก อยู่ในกรุงโรมเช่นกันค่ะ แนะนำให้มาช่วงเช้าตรู่เช่นเดิมค่ะ ถึงจะสามารถมาถ่ายรูปได้แบบไม่ติดคนเลย เพราะหลังจากนั้น นักท่องเที่ยวมาแบบเยอะสุด ๆ
Vatican นครรัฐวาติกัน เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในกรุงโรม เนื่องจากเป็นดินแดนที่ต้องได้รับการรักษาไว้เป็นพิเศษ เพราะในอดีต ที่วาติกันนี้มีการทำสนธิสัญญากับอิตาลี ให้พื้นที่หรือเมืองนี้แยกตัวออกมาเป็นรัฐเอกราช ที่มีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเอง เป็นแหล่งที่เป็นศิลปวัฒนธรรมของโลกและเป็นศูนย์กลางของคริสตจักร ซึ่งผู้ที่มีอำนาจสูงสุดนั่นก็คือ พระสันตะปาปา หรือที่เราได้ยินว่า "โป๊ป" นั่นเอง ถึงจะเป็นประเทศเล็ก ๆ ที่อยู่ในเมืองโรม แต่วาติกันก็มีความยิ่งใหญ่ในด้านศิลปวัฒนธรรมของโลกและเป็นศูนย์กลางของคริสตจักรอีกด้วยนะ
จบทริปอิตาลีครั้งแรกแล้วนะ ครั้งนี้มาแบบปุ๊บปั๊บเลยพยายามเก็บสถานที่ไฮไลท์ๆให้ได้มากที่สุด ใครชอบก็เที่ยวตามรอยได้เลยน้า บ้านเมืองสวยงามสมกับเป็นประเทศแห่งศิลปะจริง ๆ ค่ะ
ทางไปจอง : โรงแรมใน Venice , โรงแรมใน Florence, โรงแรมใน Pisa ทางไปจองรถเช่า : DiscoverCar , Qeeq
Comments