top of page

Jordan Life on Mars - Roadtrip 7 วัน เที่ยวจอร์แดน

อัปเดตเมื่อ 16 ธ.ค. 2566

หากใครถามว่าจอร์แดนแห่งโลกตะวันออกกลางมีอะไร ออมนัทขอตอบสั้นๆ 3 ข้อ ว่าที่นี่ มี ‘ทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดในโลก’ มี ‘เมืองเพตราอันสวยงามหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก’ และ ‘ดาวอังคาร’ มีอยู่จริงที่นี่!!!

นี่คือบทสรุปสั้นที่จะทำให้ทุกคนหลงสเน่ห์ประเทศนี้ทันที เมื่อได้มาสัมผัสดินแดนทะเลทรายสีแดงอมชมพูแห่งนี้ ทริปขับรถเที่ยวเอง 7 วันเต็ม เก็บสถานที่เด็ดๆต้องมาสักครั้งให้ได้! เป็นที่ที่ทำให้เราใจสั่นดิ๊ก ๆ สวยกรี๊ดสลบตลอดทางแน่นอน เคยอยากรู้ว่า ความรู้สึกเมื่ออยู่นอกโลกมันเป็นยังไง ออมนัทว่าที่นี่แหละ..คือหนึ่งในที่ที่จะทำให้เราได้คำตอบนั้น พร้อมแล้วแชร์รีวิวนี้ไว้ ตามรอยฉบับออมนัทกันได้เลยจ้า


คำแนะนำ

  1. Visa ไม่ต้องทำที่ไทยค่ะ สามารถทำเมื่อถึงสนามบินจอร์แดนได้เลย เป็นแบบ Visa on arrival = 40JOD / หรือแนะนำดีกว่านี้ ถ้าเราวางแผนไปเที่ยว Petra ด้วย ให้ซื้อ Jordan Pass ดีกว่าจะถูกกว่ามาก ซื้อจากเว็บไซด์ แล้ว Print ticket ออกมา **ต้องซื้อก่อนเข้าจอร์แดน เท่านั้น ราคามีหลากหลาย แต่รับรองว่าคุ้มกว่ามาก เพราะจะรวมค่าเข้าสถานที่ต่างๆไว้แล้ว ไม่ต้องจ่ายเพิ่มจ้า

  2. ถนนขับไม่ยาก ขับเลนขวา (ตรงข้ามบ้านเรา) ช่วงวันแรกก็ขับช้า ๆ ค่อย ๆ ไป ความเร็วส่วนมาก ห้ามเกิน 110กม./ชม.

  3. การแลกเงิน ควรแลก USD ไว้ แล้วไปแลกเป็น JOD ที่นั่นแทน

  4. อากาศค่อนข้างเย็น ออมนัทไปช่วงเดือนพฤษภาคม เห็นเป็นทะเลทราย จะคิดว่าร้อนจริงๆแล้วเย็นเลยค่ะ ก่อนมาเช็คอากาศกันดี ๆ จะได้เตรียมชุดมาให้ถูกนะ

  5. เดือนมกราคม-มีนาคม หนาวสุด / นอกนั้น High Season หมดจ้า

  6. Sim card มีหลายแบบ ออมนัทแนะนำ Orange ซึ่งค่อนข้างราคาสูง แต่เน็ตแรง ใช้ได้ทุกที่!

  7. อาหาร เน้นเนื้อและไก่ ปลาหายากมาก ค่อนข้างหนักไปทางแป้ง ขนมปัง ชีส น้ำมัน กลิ่นและรสชาติไปทางตะวันออก ใครไม่ถนัดสายนี้ อาจจะทานไม่ค่อยได้แบบออม ขนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนโจ๊กไปจ่ะ ถือสะว่าทริปนี้ ได้ลดความอ้วนกลับมาหุ่นดีเลยละ ฮ่า ๆ

  8. การเดินทางไป-กลับ BKK-AMMAN ออมนัทนั่งสายการบิน Emirates จอร์แดน > ดูไบ (3ชม. แล้วแวะเปลี่ยนเครื่อง) ดูไบ > ไทย (9ชม.) นั่งสบาย กินอิ่ม ตลอดไฟล์ท

แพลนทริป 7 วัน ไปที่ไหนบ้าง บอกก่อนเลยนะว่าทริปนี้เน้นสบาย ถ่ายรูปหนัก ๆ ไม่รีบ ขอเต็มที่กับเวลาในการอยู่แต่ละสถานที่นาน ๆ Day 1 : Amman , Jordan บินถึงจอร์แดนบ่ายสาม เข้าที่พักใกล้สนามบินชิลๆ Day : 2 : Amman > Petra ขับรถ 3 ชม.ไปถึง Petra พักที่ Petra Guest House บ่ายสามเข้า Petra ด้วยวิธีลัด ไปลงด้านหลังแทน เดินจาก The Monastery > The Treasury ถึงเย็นๆประมาณ 1 ทุ่ม (ช่วงหลัง 5 โมงเย็นไม่มีคนเลยสบายมาก) เข้า Petra Night ได้ตั้งแต่ 1 ทุ่มเป็นต้นไป แนะนำให้ไปน้า (ออมนัทตอนนั้นไม่ได้เข้าเสียดายเลย) Day 3 : Petra ช่วงเช้าก่อน 8 โมงเข้าเพตราอีกรอบเก็บแสงเช้า ขึ้นไปดูเพตราจากมุมสูง (มุมฮอตอีกมุมที่ต้องมาถ่ายรูป) บ่ายออกจากที่พัก ขับรถไปทาง Little Petra แล้วพักที่ Bubble Luxotel Day 4 : Petra > Wadirum ขับรถจาก Petra ไปวาดิรัม 2 ชม. พักที่ Memories Aicha Luxury Camp (2 คืน) Day 5 : Wadirum Private tour เที่ยว Wadirum ครึ่งวัน Day 6 : Wadirum > Dead Sea ขับรถไป Dead Sea 4 ชม. เส้นก่อนถึง Dead Sea สวยมาก พักที่ Kempinski Day 7 : Dead Sea > Amman Airport ขับรถไปสนามบิน 2 ชม. กลับไทย


รายละเอียดค่าใช้จ่าย

  1. ที่พัก คืนที่ 1 : โรงแรม Amman Airport Hotel = 4,000.- คืนที่ 2 : Petra Guest House = 4,000.- คืนที่ 3 : Petra Bubble Luxotel = 8,000.- คืนที่ 4-5 : Memories Aicha Luxury Camp Wadirum =31,000.- คืนที่ 6 : Kempinski Dead Sea = 11,000.-

  2. ค่า Visa on Arrival = 40JOD

  3. ค่าเข้า Petra 2 วัน = 56JOD **อย่างที่บอกควรซื้อ Jordan Pass จากเว็บมาก่อน จะราคาแค่ 75JOD จะถูกกว่าเยอะเลย

  4. เช่ารถ 120JOD (หารแล้ว 4 คน)

  5. ค่า Private Tour Wadirum = 90 JOD

  6. ค่าน้ำมัน = 45JOD

  7. ค่ารถขึ้นเพตรา (ทางลัด) = 20JOD

  8. อื่นๆก็แล้วแต่ซื้อนะ อาหารส่วนมากที่โรงแรมในแคมป์ จะรวมอาหารเช้าและอาหารเย็น กลางวันออมนัทส่วนมากเอาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โจ๊ก น้ำพริก หมูฝอย ไปกินเอง = รวมแล้วประมาณคนละ 55,000 บาท (ไม่รวมตั๋ว)

Petra

มาเริ่มรูทการเที่ยวด้วย Petra กันก่อน ออมนัทขับรถมาถึงเพตราประมาณบ่าย 2 เข้าเช็คอินที่พัก

ที่พักที่เพตราคืนแรก : Petra Guest House

ชอบมากกกก ราคา 4,000 แต่ห้องใหญ่มาก สะอาด บริเวณโรงแรมก็ดีมาก อยู่ตรงทางเดินเข้าเพตราเลย สะดวกมากสำหรับการจะเดินเข้าเพตรา มีที่จอดรถ


หลังจากเก็บของ เราก็เดินไปที่ล๊อบบี้เพื่อถามข้อมูลการเข้าไปในเพตราค่ะ พนักงานโรงแรมก็ได้แนะนำวิธีลัดสำหรับคนอยากประหยัดเวลาและขี้เกียจเดินแบบเราสองคน ก็สามารถจ้างรถจากโรงแรมขับไปส่งจากทางด้านหลัง แล้วเริ่มเดินเท้าสวนทางจากด้านหลังสุดไปถึงด้านหน้าสุดค่ะ ไปตามทางประมาณ 40 นาทีก็จะถึงจุดหลังสุด ราคาค่ารถไปส่งถึงด้านหลัง 30JOD

คำแนะนำ

  • จริง ๆ แล้ว การเข้าเพตราจะเดินจากด้านหน้า 8 กิโลเมตร ทางเรียบ และเดินขึ้นเขาอีกประมาณ 1,000 ขั้น ซึ่งมันชันละเหนื่อยมาก เวลาโดยประมาณ 4 ชม.เลยทีเดียว

  • แนะนำจ่ายเพิ่มหน่อยแต่ประหยัดเวลาเยอะ ถ้าเริ่มเดินจากที่ออมนัทมา เวลาดีมาก เดินครบไปจนถึงทางเข้าด้านหน้า จนถึง 5-6 โมงเย็น เวลาช่วงนี้นักท่องเที่ยวทัวร์ต่าง ๆ กลับหมด คนน้อยมากถ่ายรูปสบายไม่ติดคนเลยจ้า

  • จุดตรง The Teasury อยู่ได้ถึงกลางคืนเลย จะมีจุดไฟแสงสวยมาก ๆ นะ

ทางเดินสบาย ๆ มากค่ะ ไม่มีปีนเขาอะไรเยอะ เดินเพลิน ๆ อากาศดีมาก ชมวิวไป แปปเดียวก็ถึง


The Monastery

ถึงแล้วจ้า The Monastery ตรงนี้คือจุดด้านในสุดของเพตรา ใหญ่ที่สุด ดูขนาดออมตัวจิ๋วไปเลย แค่มาถึงที่แรกก็สวยสลบแล้ว


มีมุมถ่ายรูปหลายจุดนะ เดิน ๆ หาเลย เยอะมาก ส่วนจุดนี้คือใต้ถ้ำเล็ก ๆ ตรงข้ามหน้าประตู


ตรงนี้ก็มีคาเฟ่นั่งพัก ดื่มน้ำเย็น ๆ ใครชอบ Shi-Sha ก็จัดได้ นั่งชิล ๆ รับลมเย็นสบาย ดูวิว The Monastery ไป บรรยากาศดีที่สุด

สักชั่วโมงกว่า ๆ กลัวจะค่ำก็เดินลงย้อนศรไปตามทางเข้ากันค่ะ ส่วนมากจะเป็นทางเดินลง สบาย ๆ


ทั้งเมืองเพตรานี้ใหญ่มาก มีจุด Trekking หลายจุดให้เลือกเดินค่ะ ซึ่งที่นี่ถือว่าเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก เพราะอะไรไปดูรูปต่อไปเลย

ระหว่างทางเดินมีแมวเหมียวน่ารัก ๆ เพียบ เอารูปน้องเหมียวขนปุยมาฝากค่ะ


The Treasury

เดินมาเรื่อย ๆ แบบไม่รู้ตัว หันไปทางขวา ถึงกับกรี๊ดดังๆ เพราะสิ่งที่อยู่ด้านหน้าเราคือ The Treasury หนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกนั่นเองค่ะ เป็นการเจาะขุดหินเป็นประตูทางเข้าโบสถ์ สวยอลังการมาก นี่ไม่ใช่การแกะสลักแล้วนำมาแปะแต่อย่างใด แต่นี่คือเค้าเจาะ ขุด แกะสลักกันทั้ง ๆ ที่เป็นหน้าผาเขาแบบนี้เลย คุ้มมากที่พาตัวเองมาเห็นสิ่งมหัศจรรย์ถึงที่นี่

มุมถ่ายรูปจุดนี้ก็มีเยอะมากค่ะ จะปีนขึ้นไปถ่ายทางด้านซ้ายหรือขวาก็ได้ หรือจะถ่ายจากมุม The Siq ตรงนี้ก็ได้

แนะนำ

  • มุมตรง The Treasury ควรมาช่วงแสงเย็นหลัง 5 โมงเย็นเป็นต้นไป นักท่องเที่ยวกลับหมดแล้ว ถ่ายรูปสบาย อากาศดี และหินช่วงเย็นจะกลายเป็นสีชมพู

  • ถ้ามาช่วงเช้าก็ควรมาก่อน 8 โมง เพราะหลังจากนี้นักท่องเที่ยวเยอะมาก แสงแดดจะพาดเป็นเงาดำครึ่งนึง (มีรูปตัวอย่างอยู่รูปต่อไป) ไม่ค่อยสวย

เช้าวันรุ่งขึ้นออมนัทกลับมาที่ The Treasury อีกรอบเพื่อจะไปเก็บอีกมุมค่ะ มาถึงตรงนี้ประมาณ 8 โมง เดินจากทางเข้ามาถึงประมาณ 1 กิโลเมตร พอเข้ามาก็จะเจอกับเจ้าถิ่นหลายคนเดินเข้ามาเสนอขาย โดยจะพาเราปีนหินขึ้นไปถ่ายรูปมุมข้างบน ซึ่งเอาจริง ๆ ต่อราคาเยอะ ๆ เข้าไว้ ทำท่าไม่เอาก็จะยอมลด ออมนัทเลือกปีนมาจากฝั่งซ้าย ก็จะได้มุมประมาณนี้ แต่แนะนำให้ไปทางฝั่งขวาสวยกว่า มีแบบปีนขึ้นเองฟรี ๆ กับมีคนพาเดินขึ้นมา (ชันหน่อยนะ ควรมีคนพามาดีที่สุด) อีกอย่างจะต้องโดนเรียกทิปค่าพาขึ้นมาด้วย อย่าจ่ายเกิน 1 JOD นะ


Bubble Luxotle Petra

เที่ยวเพตราตอนเช้าเสร็จก็ขับมาทาง Little Petra คืนนี้เราพักที่ : Bubble Luxotle Petra โรงแรมบับเบิ้ลหนึ่งเดียวในย่านนี้ วิวดีที่สุด ห้องสะอาด มีพื้นที่ใช้สอย มีจากุชชี่ให้แต่ละห้อง และที่สำคัญ ช่วงพระอาทิตย์ตกมันสวยมากกกกก สวยแบบชีวิตนี้ออมนัทยกให้ที่นี่ เป็นที่ที่บรรยากาศโรแมนติกมากในช่วงเย็น

บรรยากาศดีแค่ไหน ดูรูปเลย แช่อ่างจากุชชี่อุ่น ๆ อากาศเย็น ๆ วิวพระอาทิตย์ตกสวยมาก เหมือนเราเห็นเส้นขอบฟ้าใกล้ ๆ จนแสงท้องฟ้าหมดไป


Wadirum

เช้านี้เราออกจาก Petra เพื่อขับรถมุ่งหน้าต่อไปยัง Wadirum ทะเลทรายสีชมพูอันแสนมหัศจรรย์ ใช้เวลาขับรถประมาณ 2 ชม.


ถึงที่พักในวาดิรัม ออมนัทพักที่ Memories Aicha Luxury Camp (2 คืน) กะจะอยู่ที่วาดิรัมนาน 2 วันเต็ม ไปตามเก็บสถานที่ในฝันให้เต็มที่ แถมจะได้มีเวลานอนชิลอยู่ที่พักด้วย และนี่วิวบรรยากาศของที่นี่ หลุดออกนอกโลกไปแล้วจริงมั้ย?


ออมนัทจ้างคนขับรถ ชื่อว่าคุณลุง Hunsen เป็นทั้งไกด์และคนขับรถตลอดทัวร์ครึ่งวันนี้ บอกเลยว่าคุณลุงน่ารักมาก หินทุกก้อนที่ทะเลทรายวาดิรัมนี้คุณลุงรู้หมดจ้า บอกอยากไปที่ไหนเอารูปมา แล้วจะพาไป คุณลุงอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดเลยเด้อ

เปิดรูปให้คุณลุงดู แกก็พามาทุกจุดตามรูปเลย ที่แรกมุมนี้ สามารถปีนไปถ่ายด้านบนได้ หรือจะขี่อูฐชมวิว บรรยากาศทะเลทราย เท่ชะมัด!

นี่เราอยู่บนโลกจริงๆใช่มั้ย เหมือนหลุดไปอยู่ในอวกาศ มุมนี้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์หลายเรื่องเลย เช่น เรื่อง Aladdin จาก Walt Disney นั่นเอง

ถามว่าร้อนมั้ย อากาศเย็นสบาย แต่จะร้อนแดดสะมากกว่า แนะนำใส่แว่นกันแดด โบกครีมเยอะ ๆ แดดแรงอากาศเย็น ถ่ายรูปสนุกมาก


ได้เที่ยวแบบไพรเวทดีมากเลยนะ อยากแวะตรงไหนแวะ อยากไปที่ไหนบอกลุง ส่วนบริเวณ Wadirum จะอยู่นอกเขตอนุรักษ์ของวาดิรัมแต่ไม่ไกลมากจากที่พัก ราคาทัวร์จริง ๆ แล้วแต่ตกลงว่าเราอยากไปแบบไหน พูดคุยต่อรองได้

แสงเย็นมาทักทายแล้ว เป็นช่วงเวลาที่ทำให้ทะเลทรายกลายเป็นสีแดงอมชมพู เราไปถ่ายรูปกันจุดต่อไปดีกว่า

จุดพีคที่ออมนัทเลิฟมากเลยคือ หินทรงโต๊ะกลม พร้อมกับฉากหลังพระอาทิตย์ตกดิน ทุกคนมันสวย ละมุน Vibes ดีที่สุด ใครไปตรงนี้ถ้าอยากขึ้นมาถ่ายแบบออมนัท ปีนขึ้นกันดี ๆ น้า มันปีนยากมาก อันนี้กว่าออมจะขึ้นได้ต้องให้คุณลุงช่วยยก ดัน กว่าจะขึ้นได้


ก่อนแสงอาทิตย์จะหมดไป คุณลุงพามาอีกจุด เป็นวิวมุมกว้าง เห็นเขาของที่นี่เป็นฉากหลัง อลังการงานสร้างมาก ตอนบินโดรนดูภาพตรงหน้า ทุกคนที่นี่มันนอกโลกชัด ๆ


ถ่ายรูปกันเพลินมาก จากทัวร์ครึ่งวันของคุณลุงใจดี แถมให้ถึงค่ำ จนถึงที่พักกันแบบฟ้ามืดเลยเวลาไปอีก รีบอาบน้ำแต่งตัวทานข้าว แล้วออกมาเก็บดาวนับล้านในคืนสุดท้ายที่วาดิรัม


Deadsea

ออกจากวาดิรัม ขับขึ้นมายังจุดหมายสุดท้ายในทริปนี้ Deadsea ใช้เวลาขับรถประมาณ 4 ชั่วโมง ระหว่างทางก่อนถึง Dead Sea สามารถจอดรถแวะถ่ายรูปข้างทางได้นะ วิวสวยมาก ด้านตรงหน้าคือประเทศอิสราเอลนั่นเองจ้า

ขับมาประมาณ 4 ชั่วโมง ถึงแล้ว Deadsea ทะเลสาปน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดในโลก ออมนัทตื่นเต้นมาก ๆ คือมีความตั้งใจอยากจะลงไปถ่ายรูปตรงมุมขอบขาว ๆ หาดของทะเลมันคือเกลือนั่นเอง แต่ขอเตือนก่อนนะว่า ใครจะลงไปถ่ายด้านล่างช่วงถนนระหว่างถึงโรงแรม ถนนมันเปลี่ยว ไม่มีคน จะจอดรถข้างทางต้องระวังอันตรายค่ะ เพราะออมนัทลองจอดแล้วกำลังเดินลงไปถ่าย พอดีเจอแก๊งค์ฝรั่งเขาโดนทุบกระจกรถแตกเลย เขาก็เตือนเรามา เลยต้องถอดใจ อดลงไปถ่ายที่ทะเล แล้วขับกลับโรงแรมไป เห็นเหมือนจะเดินลงไปใกล้ ๆ แต่เอาจริงระยะจากถนนไปถึงทะเลไกลอยู่นะ


และผลสุดท้ายนอยกลับโรงแรม ไม่ได้รูปมุมที่อยากถ่ายกับเกลือสีขาว ๆ ก็กลับมาสัมผัสทะเล Deadsea สักหน่อยที่หน้าหาดโรงแรมก่อนแสงพระอาทิตย์จะหมดไป เอ้า! ทุกคนเราลอยตัวได้จริง ๆ แถมน้ำทะเลเค็มมาก เค็มแบบขมเลย ระวังอย่าให้เขาตานะคะ มันแสบสุด ๆ


เช้าวันสุดท้ายก่อนจะกลับไทย ไปเดินเล่นบริเวณที่พักกันค่ะ ออมนัทพักที่ Kempinski ริมทะเล มีหาดส่วนตัว และสระว่ายน้ำที่นี่ที่เก๋มากไปดูกัน

วิวสระว่ายน้ำของโรงแรม ดีมากกก ดซนที่พักติดทะเลมีหลายโรงแรมให้เลือกเลยค่ะ อยากแนะนำให้หาโรงแรมริมหาดแบบนี้ ทุกโรงแรมก็มีหาดส่วนตัวลงไปแช่ Deasea ได้เลย ส่วนออมนัทชอบที่นี่เพราะมีสระว่ายน้ำวิวสวย ๆ แบบนี้ ตรงข้ามเราคือประเทศอิสราเอลนั่นเอง

จบเรียบร้อยกับทริปขับรถเที่ยวประเทศจอร์แดน 7 วันแบบสบาย ๆ เน้นถ่ายรูป มีเวลาชิล อยู่แต่ละที่ได้นาน ๆ ใครชอบเที่ยวแนวนี้ก็ตามรอยได้เลยน้า หรือถ้าใครอยากรวบรัดเวลาหน่อยก็สามารถทำได้ เพราะจาก Amman ลงใต้สุดขับรถจริง ๆ รวดเดียว 5 ชม.เอง...บอกได้อีกแล้วนะว่าที่นี่สักครั้งในชีวิต ควรมา!!!



תגובות


ABOUT US
profile.jpg

Om & Nut

Welcome to our blog guys! Let's explore luxury hotel destination around the world with us. We love traveling and sharing stories about couple goals together with beautiful scenic photography and video. 

EXPLORE THE WORLD
POPULAR
bottom of page