top of page

Oman Roadtrip 11 Days ขับรถเที่ยวโอมานครั้งแรก

อัปเดตเมื่อ 2 ต.ค.

หากถามว่าจักรวาลไปทางไหน ที่นี่เลย ‘โอมาน’

ดินแดนอาหรับราตรีที่เต็มไปด้วยความสวยงามอลังการ ประเทศที่คุมโทนมากที่สุด ผู้คนน่ารักเป็นมิตรที่สุด กับการขับรถผจญภัย 11 วันด้วยตัวเอง


ตะลุยทะเลทรายวาฮิบาอันเวิ้งว้าง ไปเห็นโอเอซิสอันยิ่งใหญ่ นอนแคมป์ท่ามกลางทะเลอราเบียนสีฟ้าสด สัมผัสทะเลทรายสีขาวเหมือนน้ำตาลทราย ย้อนยุคกลับไปในป้อมปราการเก่าแก่ของโอมาน สู่เทือกเขาสูงที่สุดอย่าง Jabal Akhdar เพื่อไปสัมผัสประการณ์สุลต่านท่านหนึ่ง ในรีสอร์หรูระดับโลกสักครั้งในชีวิตต้องมา!

และนี้คือ Road Trip 11 วันเต็ม ที่อยากให้ทุกคนได้เห็นกับตาว่า ‘โอมาน..ก็มีแบบนี้ด้วยหรอ’ ..ตามรอยออมนัทมาได้เลยค่า


มาดูแพลนทริป 11 วันกัน

ออมนัทจะเที่ยวโดยแบ่งเป็นทั้งหมด 4 ช่วง คือ ช่วงทะเลทราย/ทะเลอาราเบียน/เมืองเก่า/รีสอร์ทหรู Day1 : Muscat Airport (รับรถเช่า) Muscat > Sur > Ras Al Jinz Day2 : Wadi Shab > Badiyah > Desert Nights Camp Day3 : Wahiba Desert > Wadi Khalid Bani Day4 : Badiyah > Baar Alhikman Day5 : Sugar Dunes > Nizwa Day6 : Nizwa Fort > Muscat Day7-10 : Sultan Qaboos Grand Mosque / Anantara Al Jabal Alakhdar


ที่พักทั้งหมดในทริป

Day1 - Ras Al Jinz Turtle Reserve คืนละ OMR80 Day2 - Desert Night Camps คืนละ OMR88 Day3 - Starry Dome คืนละ OMR89 Day4 - Baar Al Hikman คืนละ OMR35 Day5 - Antique Inn Nizwa คืนละ OMR59 Day6 - Grand Millennium Muscat คืนละ OMR54 Day7-10 - Anantara Al Jabal Alakhdar


คำแนะนำ

- เช่ารถขับถ้าจะไปนอนทะเลทราย แนะนำจองรถแบบ 4x4 และเพิ่มประกันครอบคลุมด้วยนะ เพราะยังไงทรายกระเด็นถูกรถเป็นรอยได้ - ถนนดีมาก ขับสบาย - คนโอมานใจดีมาก ยิ้มแย้ม ช่วยเหลือดีสุดๆ - น้ำมัน เต็มถังประมาณ 1,200.- - ขับรถห้ามเกิน 120km/hrs ระหว่างทาง จะมีเครื่องตรวจความเร็วแท่งดำ ๆ อยู่ริมถนน อย่าขับผ่าไฟแดงนะ ขับระมัดระวัง เพราะค่าปรับแพงมาก -ใครสายแอล ให้ซื้อจากสนามบินขาออกตุนไว้ให้พอทั้งทริปนะ เพราะถ้าซื้อตามโรงแรมแพงมาก และหาซื้อยาก - ขับรถให้เลือกเส้นทาง Highway นะ ถ้า map บอกไปทางลัดอย่าเชื่อเพราะอาจจะพาไปทะเลทรายได้ - อาหารกินได้ พวกไก่ย่าง ข้าว สะเต๊ะใดๆอร่อย - Internet ซื้อซิมจากสนามบินหรือเปิดโรมมิ่งก็ได้นะ - เรื่องการใช้โดรน ไม่อนุญาติให้นำโดรนเข้า ซึ่งอ่านมาว่าให้เขียนทำเรื่องขออนุญาติ แต่ออมนัทพยายามเมล์ติดต่อถามแล้ว ไม่ได้รับเมล์ตอบกลับ ซึ่งถ้านำโดรนไป เค้าตรวจเจอก็แค่ฝากไว้ที่สนามบินแล้วค่อยมารับคืนวันกลับ


Day 1

เริ่มต้นการเดินทางจากไทยมาลงสนามบินมัสกัตตอนเที่ยง รับรถเช่าแล้วขับตรงมาที่เมือง Sur ก่อนเลยค่ะ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงนิดๆ เมืองท่าสำคัญของโอมาน บรรยากาศเมืองติดทะเล บ้านเมืองโทนสีไปในทางเดียวกัน นี่แค่เริ่มต้นก็ตื่นเต้นแล้วค่ะ

คืนแรกนอนกันที่ Ras Al Jinz Turtle Reserve เป็นที่พักที่ดีที่สุดในย่านนี้เลย เมืองนี้จะเป็นศูนย์อนุรักษ์เต่าสีเขียว ซึ่งเราสามารถทำกิจกรรมเดินไปที่ชายหาดเพื่อดูเต่าอย่างใกล้ชิดได้ค่ะ


Day 2

ออกจาก Ras Al Jinz Turtle Reserve ขับย้อนกลับขึ้นไปทางเมือง Sur เราจะแวะไปเที่ยว Wadi Shab กันก่อนค่ะ ที่นี่ถือเป็นโอเอซิสอันโด่งดังที่ห้ามพลาดเลย ไปถึงต้องนั่งเรือข้ามฟาก (ค่าเรือ 1OMR) เพื่อเดินเท้าเข้าไปด้านในกันอีกประมาณ 1-2 ชั่วโมงค่ะ

เรือจะไปส่งเราที่ฝั่งตรงข้าม หลังจากนั้นก็เริ่มเดินกันได้เลยค่า

ซึ่งจุดไฮไลท์ของที่นี่คือถ้ำด้านในสุด ถ้าใครจะเดินเข้าไปให้สุดน่าจะใช้ระยะเวลาไปกลับประมาณ 2-3 ชั่วโมงเลยค่ะ แนะนำให้มาช่วงบ่าย 3 เป็นต้นไปจะเย็นสบายกว่านี้ค่ะ ออมนัทเดินมาถึงแค่จุด First Pool ค่ะ มาถ่ายรูปแช่น้ำดับความร้อนกันนิดหน่อย ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็กลับกันแล้ว ยอมแพ้ความร้อนถอยก่อนละกัน ใครไหวแนะนำไปให้สุดเลยค่า


เดินทางกันต่ออีก 1 ชั่วโมงนิดๆ สภาพภูมิประเทศก็เริ่มเปลี่ยนไป เราเข้าสู่ทะเลทรายสีน้ำตาลเข้มหนึ่งเดียวในโอมาน เรียกว่า ทะเลทรายวาฮีบา (Wahiba Sands) ครอบคลุมพื้นที่ 10,000 ตารางกิโลเมตร ขนาดความยาว 200 กิโลเมตร กว้าง 100 กิโลเมตร และเนินทรายสูง 100-150 เมตรกันเลยทีเดียว ระหว่างทางเราก็จะเห็นอูฐเดินไปมาตามทะเลทรายเป็นระยะๆ ฟิลมันได้จริงๆทุกคน

แวะถ่ายรูปทักทายอูฐหน่อย


ที่นี่เป็นทะเลทรายที่มีชื่อเสียงมากในกลุ่มประเทศอาหรับ ซึ่งนิยมมานอนแคมป์กลางทะเลทรายกันค่ะ คืนที่ 2 ออมนัทมานอนกันที่ Desert Nights Camp คืนละ 88OMR วิลล่าดีมาก สะอาด แบ่งเป็นสัดส่วน เปิดออกมาเห็นวิวทะเลทรายตรงหน้าแบบนี้เลย


ช่วงเย็นเค้าก็จะพาเราขึ้นไปชมวิวพระอาทิตย์ตกบนสันทะเลทราย มองเห็นวิวทั้งหมดของโรงแรม โมเมนท์ที่สวยจนลืมเวลาไปเลย


Day 3

เรามีเวลาเหลืออีกประมาณ 3-4 ชั่วโมงก่อนจะเข้าที่พักต่อไป ออมนัทเลยแวะมาที่ Wadi Bani Khalid กันค่ะ วิวระหว่างทางคือถ่ายสวยไปหมด เพราะบ้านทุกหลังคุมโทนสีเดียวกันบวกกับต้นปาล์มต้นอินทผาลัมและฉากหลังภูเขาสูง

ใครจะมาตรงนี้ต้องเสิร์ชคำว่า Wadi Bani Khalid Parking Area นะจะพามาถึงที่จอดรถเลยค่ะ เดินต่อเข้ามาอีกแค่ 5 นาทีก็ถึงแล้ว อีกหนึ่งโฮเอซฺสที่สวยไม่แพ้กัน


Starry Domes Glamping

ที่พักคืนที่ 3 ยังอยู่ในโซนทะเลทรายค่ะที่นี่คือ Starry Domes เปลี่ยนบรรยากาศนอนแบบโดมกันบ้าง การเดินทางเข้ามาต้องนัดกับเจ้าของก่อนค่ะ เพราะจะมีคนขับรถนำทางพาเข้าไม่งั้นหลงแน่นอน ออมนัทนอนเป็นห้อง VIP Dome มีอ่างจากุซซี่ในห้อง ห้องน้ำส่วนตัว เตียงขนาดใหญ่ มีมุมนั่งเล่นวิวทะเลทราย คืนละ 89OMR

นี่เราหลุดมาอยู่ในดาวไหนกันเนี่ย ยิ่งตกเย็นยิ่งได้บรรยากาศสุดๆ

มื้อเช้าเค้าจัดเซตมาเสิร์ฟหน้าห้องเลยค่ะ อาหารเช้าอร่อยเลย


Day 4

ไปต่อสู่ความเวิ้งว้างของจริงแล้ว แพลนที่นี่คือหาข้อมูลยากมากๆค่ะ เป็นที่พักที่คนมาน้อยมาก แถมต้องขับรถไกลจากโซนท่องเที่ยวกว่า 4-5 ชั่วโมง ออมนัทติดต่อที่นี่ผ่านไกด์ท้องถิ่นอีกที ซึ่งต้องนัดเจอเจ้าของแคมป์ขับรถนำพาเข้ากันอีกแล้ว ดูทางสิทุกคน ไม่มีอะไรเลยจริงๆ ฮ่าๆ

คืนที่ 4 นอนกันที่ Whaleshead Camp (เสิร์ชในไอจีได้เลยจ้า ติดต่อกับเจ้าของได้โดยตรงค่า) เป็นแคมป์ที่อยู่ในโซน Baar AlHikman ในเมือง Mahout ซึ่งถ้าหาดูในแผนที่มันจะอยู่เป็นติ่งห้อยๆทางส่วนริมขวาสุดของประเทศเลย เป็นเกาะเล็กๆที่น้ำทะเลใสมาก ใสปิ๊งสีฟ้าสด เค้าเรียกที่นี่กันว่ามัลดีฟส์แห่งโอมานเลยทีเดียว

และนี่คือหน้าตาแคมป์ของเรา ช่วงแนะนำให้มาเที่ยวคือเดือนพฤศจิกายนค่ะ จะเป็นฤดูหนาวอากาศเย็นสบาย จะมีนกหลากหลายสายพันธุ์กว่า 4,000 ตัวมารวมกันที่นี่ เราจะได้ดูนกแปลกตาแบบใกล้ชิดเลย ออมนัทยังคุยกันเลยว่าจะกลับมาซ้ำที่นี่อีกแน่นอน


บรรยายกาศช่วงพระอาทิตย์ตกหน้าแคมป์สวยมาก ดีที่สุดไปเลย


Day 5

ออกจากแคมป์ขับเข้าเมือง Al Khaluf เป็นหมู่บ้านชาวประมงเมืองเล็กๆ ที่มีความสวยงามอลังการซ่อนอยู่นั่นก็คือ Sugar Dunes นั่นเอง

Sugar Dunes ชื่อนี้มาได้ก็เพราะว่าทรายมีสีขาวราวกับน้ำตาลนั่นเองค่ะ เอาจริงๆไม่มีคำไหนจะพูดเลยนอกว่าคำว่า “สวย สวยไปหมดทุกมุม!”


Day 6

Nizwa Fort

เข้าสู่พาร์ทเมืองเก่ากันค่ะ Nizwa เขตเมืองหลวงเก่าของประเทศโอมาน ซึ่งเป็นป้อมปราการปืนใหญ่ป้องกันเมืองที่สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 ยุคของสุลต่านบินซาอีฟ ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 12 ปี เราสามารถเข้ามาชมและเรียนรู้ถึงประวัติศาตร์ได้ด้วยตัวเองค่ะ


ภายในก็เหมือเขาวงกตเล็กๆที่มีความมหัศจรรย์และสวยงาม เดินเล่นรอบๆกัน คือ Nizwa Souq ตลาดเครื่องปั่นดินเผาและของฝากเล็กๆน้อยๆ ถ่ายรูปสวยมากค่ะ


Day 7-9

จะเป็นพาร์ทยกระดับแห่งการพักผ่อนค่ะ ช่วงสุดท้ายของทริปหลังจากเหนื่อยล้ากับการขับรถเที่ยวระยะทางกว่า 2,500 กม. เราไปพักกันที่ภูเขา Jabal Shams เป็นภูเขาหนึ่งเดียวที่มีพื้นที่สีเขียวและสูงที่สุดในโอมาน พื้นที่ราบสูง 2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ที่ได้ฉายาว่า "แกรนด์แคนยอนแห่งโอมาน"


ก่อนพาชมที่พักหรูที่สุดในทริป กระเป๋าที่ออมนัทใช้คือ Moof49 Luggage กระเป๋าเดินทาง อุปกรณ์ท่องเที่ยวเป็นกระเป๋าเดินทางที่ออมนัทใช้มายาวนาน หลังจากได้ใช้ก็ไม่เคยเปลี่ยนเลยทุกคน เวลาเพื่อนๆถามก็จะแนะนำแบรนด์นี่ตลอดเลย

ออมนัทชอบรุ่นนี้ที่สุดค่ะ เพราะใช้งานง่ายมาก เปิดซิปขึ้นก็หยิบของได้เลย ไม่ต้องกางกระเป๋าในเปลืองพื้นที่ จุของเยอะ ช่องเห็นเป็นระเบียบ เอาจริงๆไปซื้อตามมาใช้เลยจบค่ะ ตั้งรหัสล็อคกระเป๋าได้ มีซิปขยายกระเป๋าให้ใหญ่ขึ้นได้อีก ดีงาม


Anantara Al Jabal Alakhdar

ไปค่าที่พักตลอด 3 คืนแบบจุกๆออมนัทจมาพักกันที่ Anantara Al Jabal Alakhdar เป็นรีสอร์ทหรูระดับโลกที่ใฝ่ฝันมานานมาก ว่าสักครั้งในชีวิตต้องมาให้ได้ และแล้ววันนี้ก็มาถึงค่า

พูลวิลล่าวิวเขาแกรนด์แคนยอนแห่งโอมานที่ตั้งอยู่บนพื้นที่เขาที่วิวสวยที่สุด เปิดห้องมองวิวได้จากเตียงเลย อากาศด้านบนนี้เย็นสบายตลอดทั้งปี ยิ่งช่วงฤดูหนาวหมอกลอยฟุ้งเต็มหน้าห้องเลยค่ะ ขนาดออมนัทมาช่วงหน้าร้อนยังอากาศเย็นสุดๆ กิจกรรมหลักคือการทิ้งตัวและแช่น้ำสระที่ปรับระดับอุณหภูมิอุ่นๆ แช่สบายมาก


องค์แม่ประทับความหรูยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ กับดินเนอร์สุดไพรเวท เหมาฉลองวันครบรอบกันค่ะ Dining By Design สุดอลังการของ Anantara ไม่เคยทำให้ผิดหวังและเซฮร์ไพร์สอยู่เสมอ ดินเนอร์แบบอาราเบียนสไตล์เสิร์ฟเป็นคอร์สเมนูจากเชฟอย่างพิถีพิถัน พร้อมกับชมวิวพระอาทิตย์ตกแบบส่วนตัว เหมือนฝันเลยค่ะวันนี้




Day 10

วันสุดท้ายก่อนบินกลับไทย เราเข้ามานอนกันในตัวเมือง Muscat ช่วงเช้าเลยมีเวลาแวะไปชมความอลังการงานสร้างของสถาปัตยกรรมที่ Sultan Qaboos Grand Mosque มุมนี้ที่อยากเห็นกับตาตัวเอง ความละเอียด บรรจง และความยิ่งใหญ่สมกับการยกย่องว่าเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในคาบสมุทรอาหรับเลยทีเดียว

ใครจะมาเที่ยวชมที่มัสยิดสุลต่านกาบูสจะเปิดแค่ช่วงเช้าเท่านั้น หลังจากนั้นจะปิดมัศยิดเพื่อทำพิธีละหมาด เรื่องการแต่งตัว ผู้หญิงจะต้องแต่งตัวมิดชิด ใส่กระโปรงยาวคลุมเท้า เสื้อแขนยาว คลุมผ้าโพกหัวให้เรียบร้อย ภายในโถงกลางลวดลายวิจิตรงดงามที่มีแชนเดอเลีย ความสูง 14 เมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและ มีพรมทอมือไร้รอยต่อ โดยใช้เวลาทอกว่า 4 ปี มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สองของโลก

เวลาเปิด-ปิด : วันเสาร์ – พฤหัสบดี

ตั้งแต่เวลา 8:00 – 11:00 น. (ปิดวันศุกร์)

ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม


จบทริปโอมาน ทริปที่ครบทุกรสชาติทั้งทะเลทราย โอเอซิส นอนแคมป์ริมทะเลอาราเบียน ทะเลทรายสีขาว เมืองเก่า และพักผ่อนในรีสอร์ทหรูระดับโลก มาครั้งแรกโอมานก็ทำเอาประทับใจได้แบบไม่มีข้อกังขา บ้านเมืองแปลกตาเป็นระเบียบ ถนนที่ไม่นึกเลยว่าจะดีขนาดนี้ ผู้คนเป็นมิตรน่ารัก และธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่หลากหลายในประเทศเดียว


ใครอยากตามรอยหวังว่าอ่านรีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ให้เพื่อนๆได้น้า อยากรู็รายละเอียดเพิ่มเติมทักมาถามออมนัทได้เลยจ้า และอยาเห็นภาพของโอมานมากขึ้น เข้าไปดูคลิป Vlog ได้เลยน้า


OMAN VLOG EP1 - นอนแคมป์กลางทะเลทรายอันเวิ้งว้าง

OMAN VLOG EP2 - นอนแคปม์กลางทะเลที่ไหนสักที่บนโลก?!






Comments


ABOUT US
profile.jpg

Om & Nut

Welcome to our blog guys! Let's explore luxury hotel destination around the world with us. We love traveling and sharing stories about couple goals together with beautiful scenic photography and video. 

EXPLORE THE WORLD
POPULAR
bottom of page