top of page

Turkiye เมืองแห่งเทพนิยายในฝัน

อัปเดตเมื่อ 10 พ.ค.

ทริปแห่งปีในฝัน กับ 1 วีคในเมืองแห่งเทพนิยาย “ตุรกี”

ณ ดินแดนสองทวีป ความสวยงามอันหลากหลาย เมืองต่างๆสวยดั่งเทพนิยาย ที่เราฝันไว้มานาน และแล้วความฝันมันก็เป็นจริงสักที ยกให้เป็นทริปโรแมนติกที่สุดแห่งปี ขนาดกลับมาแล้วยังอดหุบยิ้มไม่ได้ทุกทีที่นึกถึง ทั้งผู้คน สภาพอากาศ ตึกรามบ้านช่อง สถาปัตยกรรมต่างๆ บรรยากาศอันแสนจะละมุน ฟรีวีซ่า เที่ยวง่าย และที่สำคัญไม่แพงเลยสักนิด! เป็นประเทศที่ออมนัทกล้าคอมเฟิร์มเลยว่า ‘สักครั้งในชีวิต..ลองไปสัมผัสด้วยตัวเองกันนะ’

เดือนทางเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน-5 ธันวาคม (เที่ยวเต็มๆ 7 วัน) สถานที่ค่อยๆไต่ระดับความพีคขึ้นเรื่อยๆ เปิดมาวันแรกจนถึงวันสุดท้ายยังสวยมากๆเลย Istanbul > Canakkale > Troy > Pergamum > Kusadasi > Pamukkale > Cappadocia อากาศ -2 ถึง 8 องศา


รู้จักตุรกีแบบสั้น ๆ

1 - ประเทศที่มีพื้นที่เชื่อมต่อทั้งทวีปยุโรปและเอเชีย จนได้ฉายาว่า “ดินแดนสองทวีป”

2 - ซึ่งตอนนี้เราต้องเรียกชื่อประเทศว่า Türkiye แล้วนะ ซึ่งอ่านออกเสียงตามนี้ ทูร-คีย์-เย่ หรือจะอ่านรวบ ๆ ก็ ทูร์เคีย ค่ะ

3 - ไม่ต้องทำวีซ่า อยู่ได้ 30 วัน

4 - ค่าเงินของตุรกีคือ “ลีรา” 1 บาท=1.14TRY

5 - เวลาช้ากว่าไทย 4 ชั่วโมง

6 - มี 4 ฤดู

ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน – พฤษภาคม)

ฤดูร้อน (มิถุนายน – กันยายน)

ฤดูใบไม้ร่วง (กลางกันยายน –ตุลาคม)

ฤดูหนาว (พฤศจิกายน – มีนาคม)

7 - ค่าครองชีพไม่แพง (น้ำเปล่าประมาณ 5.-)

8 - สายโซเชียลสามารถซื้อซิมที่ไทย หรือเปิดโรมมิ่งจากไทยได้เลยค่ะ เน็ตถึงเล่นได้

9 - ที่เที่ยวหลัก ๆ ก็จะมีเมืองอิสตันบูล / แคปปาโดเซีย ที่สามารถบินภายในประเทศได้ ที่เที่ยวอื่น ๆ เช่น ปามุกคาเล่ หรือเมืองต่าง ๆ ก็สามารถขับรถเที่ยวต่อได้ (ห่างกันหน่อยนะ)

10 - และด้วยความว่าที่นี่เป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมสวยงามหลากหลาย แต่ละเมืองก็จะมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป

11 - แพลนทริปสัก 4 วันขึ้นไปให้มีเวลาไปขึ้นบอลลูนที่เมือง cappadocia ด้วยน้า กิจกรรม Must do สวยแบบภาพในฝันเลยค่ะ

12 - ผู้คนส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้

13 - อาหารค่อนข้างทานได้ เน้นไก่ ปลา เนื้อ ข้าวมี

14 - แนะนำพกน้ำพริก น้ำจิ้มซีฟู๊ด ซอสต่าง ๆ ไปจิ้ม ช่วยได้เยอะ

15 - ข้อนี่ชอบที่สุด ตุรกีมีแมวเยอะมาก น้องตัวอ้วน ๆ ขนปุย ให้จับทุกตัว อ้อนเก่ง ถูเก่งทุกตัว ยั้วเยี้ยเต็มเมืองทุกที่ ใครเป็นทาสแมว แค่บินมาที่นี่มาเล่นแมวก็แฮปปี้แล้ว


การเดินทาง - สายการบิน Turkish Airlines บินตรง 10 ชม.


การเดินทางในตุรกี - ทริปนี้ออมนัทไปกับทัวร์ค่ะ Roadtrip ตามรูทที่เขียนไว้ด้านบน แต่ที่ตุรกีจะสามารถขับรถเที่ยวเองได้ รถเช่าราคาไม่แพงค่ะ แนะนำบิน Domestic Flight เมือง Istanbul <—> Cappadocia ได้ แล้วค่อยขับรถไปเที่ยวเมืองต่างๆแทน - ในเมืองอิสตันบูล สามารถเรียก Taxi หรือ Uber ได้ค่ะ


ค่าใช้จ่าย **ออมนัทไปกับทัวร์ค่ะ แต่จะคำนวณคร่าวๆให้ได้คือ - ที่พักเมืองต่างๆคืนละ 700-3,000 - ที่พักเมือง Cappadocia ตกคืนละ 1,000-5,000 บาท (แล้วแต่ที่) - ค่าขึ้นบอลลูน คนละ 150USD - ค่าเช่ารถ Classic Car ถ่ายรูปพร้อมคนขับ คันละ 150USD (สุงสูด 4 คน) สามารถขอเช่าได้ที่โรงแรม หรือเดินเลือกเอาได้เลยมีเยอะมาก - ค่าจิ๊บทัวร์คนละ 1,000-3,000 บาท (แล้วแต่เส้นทางที่เราเลือก) - ค่าขึ้นไปถ่ายรูป Kubbe(ดาดฟ้านก) คนละ 100TRY - ค่ากิน/ใช้จ่ายทั่วไป 5,000 บาท


เอาล่ะ..ออมนัทบอกละเอียดยิบย่อยให้ทุกคนตามรอยได้ง่ายๆเลย Location ต่างๆจะบอกชื่อไว้ให้ แล้วจิ้มในกูเกิลแมพ ไปถ่ายตามได้เลยค่ะ เรื่องค่าใช้จ่ายบอกเลยว่าไม่แพงจริงๆ ประเทศนี้คือคุ้มค่าที่จะไปแน่นอน พร้อมแล้วไปเที่ยวตุรกีพร้อมกันเลยจ้า!!


Day 2 - Istanbul

**ขอข้ามวันแรกไปเลยนะทุกคน เนื่องจากวันแรกเราเดินทางกันจนถึง IStanbul ตอนเย็นแล้วเข้าที่พักเลย

วาร์ปมาวันที่สองเลยค่ะ เช้านี้มาเริ่มเที่ยวกันที่เมือง Istanbul พระราชวังโดลบามาห์เช Dolmabahce Palace สร้างด้วยหินอ่อน ใช้ระยะเวลาสร้างถึง 30 ปีเลยทีเดียว เป็นศิลปะแบบตะวันออกผสมผสานกับตะวันตก อยู่ริมายฝั่งทะเลมาร์มาราในช่องแคบบอสฟอรัสที่อยู่ฝั่งยุโรป ภายในพระราชวังมีโคมไฟแชนเดอเลียร์ที่มีชื่อเสียงมากๆ ที่ทำจากแก้วคริสทัลขนาดใหญ่ที่สุดในโลกถึง 5,000 กิโลกรัม / พรมราคาแพงที่สุดในโลก / บันไดที่ทำจากไม้สักของไทยสวยมากๆ เรียกว่ารวบรวมนำของที่ดีที่สุดทั่วโลกมารวมไว้ในพระราชวังเลยค่ะ เสียดายมากที่ภายในไม่สามารถถ่ายรูปมาฝากได้


ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส Bosphuorus ที่เป็นช่องแคบเชื่อมทะเลดำ เข้ากับทะเลมาร์มารา ถือว่าช่องแคบนี้เป็นจุดพบกันของสุดขอบทวีปยุโรปและทวีปเอเชียเลยค่ะ


กลับขึ้นฝั่งมาเดินตลาด Spice Market ที่เราสามารถซื้อของฝากต่าง ๆ ได้ที่นี่ โดยเฉพาะขนม Turkish Delight ต้องลองชิมดูค่ะ อร่อยดี


Suleymaniye Mosque

มัสยิดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของอิสตันบูลรองจากฮาเยียโซเฟีย เห็นชื่อเรียกยากแต่ความจริงมีความเชื่อมโยงกับคำว่า "สุลัยมาน" หรือ "โซโลมอน" มัสยิดแห่งนี้สร้างตามพระบรมราชโองการของสุลต่านสุลัยมานแห่งจักรวรรดิออตโตมัน เป็นสถาปัตยกรรมแบบอิสลาม สะท้อนการที่จักรวรรดิออตโตมัน พิชิตจักรวรรดิไบแซนไทน์ได้ การที่เป็นต้นแบบของมัสยิดในแบบมุสลิม อาจมีส่วนให้มัสยิดอื่นที่สร้างตามหลังมีความอลังกว่า ประดับประดาหรูหรากว่า อย่างเช่นบลูมอสก์ ทำให้โปรแกรมทัวร์จะพาไปชมที่อื่นสะมากกว่าค่ะ

นอกนี้ยังยังสวยงามเป็นอันดับสองของอิสตันบูลรองจากฮาเยียโซเฟียอีกด้วยค่ะ ทั้งเงียบสงบและประทับใจมาก


Kubbe Istanbul

สถานที่สุดฮอต มุมนี้ที่เหล่า Instagrammer ต้องมา!! เป็นดาดฟ้าบนตึกร้าง ที่นี่จะทำเป็นที่จิบชาชมวิวค่ะ ชมวิวเมืองอิสตันบูลได้แบบรอบทิศจากบนนี้เลย

ปกติบนดาดฟ้านี้จะมีซุ้มที่นั่งให้นะ แต่ตอนที่ออมนัทไปลมแรง เลยไม่มีพรมไม่มีน้ำชาให้จิบเหมือนที่เห็นในรูปคนอื่นๆ แต่เอาล่ะ ไหนๆไปแล้วก็ขอถ่ายไว้สะหน่อยก็แล้วกัน

**ค่าเข้า 100 ลีร่า ต่อคน (ประมาณ 500 กว่าบาท) ราคานี้คือมีชา/กาแฟ ขนมเสิร์ฟ และจะนั่งนานแค่ไหนก็ได้

ตรงนี้เป็นมุมฝั่งซ้ายค่ะ ที่จริงมาได้ทั้งวันค่ะ แสงท้องฟ้าก็จะสวยต่างกัน ภาพนี้ออมนัทมาช่วงเย็น พระอาทิตย์ตกดินพอดี แสงสีละมุนเลย


Day 3 - Istanbul > Canakale

วันนี้จะใช้เวลาเดินทางกันยาวหน่อยค่ะ จากเมืองอิสตันบูลไปเมืองชานัคคาเล่ ระยะทางประมาณ 310 กิโลเมตร โดยสามารถนำรถขึ้นเรือข้ามฝากได้ด้วยนะคะ


Troy Ancient Site

ช่วงบ่ายเรามาถึงเมืองทรอย เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงมากแต่ในอดีต สร้างมากว่า 4,000 ปีมาแล้ว ม้าเมืองทรอย คือสัญลักษณ์ที่แสดงความฉลาดด้านกลศึกของนักรบโบราณ ที่เป็นสาเหตุทำให้เมืองทรอยต้องแตกนั่นเองค่ะ

ช่วงเย็นบรรยากาศดีมาก ๆ ค่ะ นั่งเล่นชมวิว เผลอๆมีน้องแมวมานั่งด้วยนะ ออมนัทลืมบอกเลยว่าใครเป็นทาสแมวแล้วละก็ ตกหลงตุรกีอย่างหนักหน่วงแน่ๆ เพราะประเทศนี้จะหันไปทางไหนก็เจอน้องแมวอ้วนยั้วเยี้ยไปหมดทุกที่

และม้าอีกตัวหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้ที่นี่ก็คือ ม้าที่อยู่ในภาพยนตร์ระดับฮอลลิวูล เรื่อง Troy ตัวนี้นั่นเอง


Day 4 - Canakkale > Pergamum > Kusadasi

เช้านี้เดินทางกันต่อที่เมืองเปอกามัม ไปชมวิหารอะโครโปลิส Acropolis ที่ประหนึ่งเป็นเหมือนดินแดนในเทพนิยาย โดยซึ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงของที่นี่คือโรงละครที่ชันที่สุดในโลกนั่นเอง


Day 5 - Ephesus > Pamukkela

เช้านี้เราไปชมเมืองเอฟฟิซุส City of Ephesus เป็นเมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาไว้อย่างดี เคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนกจากกรีกที่อพยพมาปักหลักสร้างเมือง โดยเป็นศิลปะแบบเฮเลนนิสติคที่มีความอ่อนหวานและประณีตมากๆค่ะ

อย่างที่บอก ไม่ว่าจะไปมุมไหน น้องแมวอ้วงก็มีเต็มไปหมด แถมทุกตัวขี้อ้อน อ้อนเก่งกว่าแมวที่บ้านอีก ตัวนุ่มขนปุยทุกตัว จับได้หมดเลยค่ะ ทำเอาออมนัทเสียเวลาเล่นกับน้อง ๆ ไปมากกว่าการถ่ายรูปสะอีก

ประตูวิหารยังสมบูรณ์อยู่เลยค่ะ เป็นหินอ่อนแกะแบบประณีตบรรจง และก็แถมน้องแมวอีกหนึ่งตัวอีกแล้ว ใครอยากไปถ่ายรูปแบบไม่มีคน แนะนำไปช่วงเช้าเลยค่ะ ถ่ายรูปสบาย ๆ


Hierapolis , Pamukkale

ที่เมือง Pamukkale มีเมืองโบราณที่ชื่อว่า Hierapolis ในอดีตเป็นสถานที่บำบัดโรค แต่เกิดแผนดินไหวบ่อยครั้งจึงไม่มีคนอาศัยอยู่อีก


Cotton Castle Pamukkale

ลงมาจากโรงละครที่นี่คืออีกหนึ่งไฮไลท์ของทริป เรียกง่าย ๆ ว่า ปราสาทปุยฝ้าย สีขาวนวลขนาดใหญ่ เป็นเมืองแพ่งน้ำพุเกลือแร่ร้อน


Day 6 - Pamukkale > Cappadocia

วันนี้เราใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนานค่ะจากเมืองปามุคคัลเล่ ไปถึงเมืองคัปปาโดเกียทั้งหมดประมาณ 10 ชั่วโมงได้ เลยถึงโรงแรมค่อนข้างช้า วันนี้เราเลยเก็บของเข้าห้อง แล้วไปทานอาหารเย็นพร้อมดูโชว์ค่ะ

**โรงแรมที่ออมนัทพักในเมือง Cappadocia คือ Anatolian Houses Hotel คืนละประมาณ 2,400.-

โรงแรมที่เมือง Capdocia จะเป็นสไตล์โรงแรมในถ้ำค่ะ บรรยากาศประมาณนี้เลย โรแมนติกมาก คืนนี้เรารีบเข้านอนค่ะ เช้าวันพรุ่งนี้มีนัด 6 โมงเช้า เป็นอีกไฮไลท์หนึ่งของทริปนี้ที่ออมนัทตั้งตารอเลยค่ะ

ก่อนนอนขอเล่าถึงเมืองที่ได้ชื่อว่า ดินแดนเทพนิยายกันก่อน Cappadocia ในอดีตมีกระแสลาวาภูเขาไฟที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง แล้วทับถมเป็นเวลาหลายล้านปี ด้วยการกระทำของธรรมาติ โดยการกัดเซาะของลม พายุ ฝน หิมะ และกาลเวลา จึงทำให้ดินแดนคัปปาโดเกียออกมาได้สวย งดงาม แปลกตา เหมือนสวรรค์ หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่าดินแดนปล่องนางฟ้า (Fairy Chimney) และยังได้รับแต่งตั้งเป็นเมืองมรกดโลกทางธรรมชาติจากยูเนสโกอีกด้วย


Day 7 - Cappadocia

Good Morning From Fairy City ค่ะ เวลานี้แหละคือสิ่งที่ออมนัทใฝ่ฝันที่จะได้มาสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้งในชีวิต กับเมืองแห่งเทพนิยาย สวย ละมุน และน่าทึ่งตามที่ใคร ๆ เค้าพูดกันจริง ๆ เช้านี้อุณหภูมิอยู่ที่ -2 องศาค่ะ หนาวมากทีเดียว ใครมาที่เมืองนี้ สิ่งที่ Mustdo เลยคือ การขึ้นบอลลูน เพราะถือเป็นสถานที่ Bucketlist ที่ควรทำสักครั้งเดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงค่ะ

แต่เนื่องจากทริปนี้เรามีเพียงเช้าเดียวที่อยู่เมืองคัปปาโดเกีย ออมนัทเลยขอเลือกที่จะเช่ารถ Classic Car มารอถ่ายรูปกับบอลลูนนับพัน ตามภาพที่ใฝ่ฝันอยากจะถ่ายรูปให้ได้นั่นเอง ค่าเช่ารถ 150USD (2 ชม. พร้อมคนขับค่ะ) ใครอยากเช่ารถ หรือขึ้นบอลลูนก็สามารถจองได้จากโรงแรม หรือเดินหาได้เลยค่ะ มีให้เลือกเยอะค่ะ (แต่ควรจองล่วงหน้าด้วยนะ)

ทุกคนดูฉากหลัง ปล่องนางฟ้า และบอลลูนที่ลอยอยู่บนฟ้าจนนับไม่ถ้วน พร้อมด้วยแสงพระอาทิตย์ขึ้นในเช้าวันนี้ ออมนัทว่าถ้าใครได้มาอยู่ตรงนี้ต้องพูดเหมือนกันแน่ๆว่า "มันเป็นโมเมนท์ที่โคตรจะพิเศษที่สุดในชีวิตเลยค่ะ"

และสำหรับสายถ่ายรูปอย่างออมนัท ไม่รู้ว่ากดชัตเตอร์กันไปเท่าไหร่แล้ว ถ่ายรูปสนุกมากจริง ๆ และรถ Classic Car ที่แสนจะเข้ากับบรรยากาศแบบนี้ เพลิดเพลินจนลืมเวลาไปเลย


สายแล้วกลับมาที่พักกันค่ะ นี่คือบรรยากาศห้องพักในช่วงเช้าค่ะ เรานอนในถ้ำกันนะ ภายในห้องอุ่นแบบไม่ต้องเปิดฮีตเตอร์เลย


Galeri Ikman

อีกหนึ่งจุดที่มาถึงคัปปาโดเกียแล้วต้องมาถ่ายรูปให้ได้คือ ร้านพรมสุดโด่งดังในโลกโซเชี่ยล “Galeri Ikman” เป็นร้านพรมที่จัดร้านได้เวอร์วังอลังการ เพื่อการถ่ายรูปโดยเฉพาะ

**ค่าเข้าไปถ่ายรูปคนละประมาณ 300 บาท หรืออยากถ่ายมุมโดรนก็มีอีกราคาค่ะ

บรรยากาศในร้านขายพรม Galeri Ikman ค่ะ

ซึ่งบอกเลยว่าเจ้าของร้านเป็นช่างภาพแฟชั่นเก่าจ่ะ เข้าใจคนมาที่นี่เป็นที่สุดอยากจะถ่ายนานแค่ไหนก็ได้ตามสบาย เอาให้จุใจ เผลอๆเจ้าของจะถ่ายให้เราสะเองด้วยนะ ซึ่งออมนัทเห็นแบบนี้แล้วก็คิดว่าพี่เค้าอาจจะไม่จำเป็นต้องขายพรมแล้วนะ เก็บค่าถ่ายรูปอย่างเดียวน่าจะปังเลยล่ะค่ะ เพราะคนเข้ามาถ่ายรูปกันเรื่อย ๆ ทั้งวันจริง ๆ


Uçhisar

เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้ๆกับเมือง Goreme จุดถ่ายรูปวิวเมืองที่ออมนัทถ่าย อยู่ภายในโรงแรม Argos Hotel น้า ใครจะตามก็เสริ google map แล้วไปเลย จอดรถได้ เดินเข้าไปถ่ายได้ค่ะ พอดีหน้าโรงแรมให้มองไปทางฝั่งซ้ายสุด เดินเข้าไปสุดทางของจะเจอถ้ำ เดินเข้าไปแล้วมองออกมาก็จะเจอกับวิวนี้ อย่างกับเมืองในหนังการ์ตูนเทพนิยายเลยใช่มั้ยคะ



Goreme , Cappadocia

กิจกกรมสุดท้ายในช่วงเย็นคือ จิ๊บทัวร์ นั่งรถจิ๊บสุดหวาดเสียว ลุ้นระทึกตลอดทาง ให้เราได้สนุกหรืออาจจะกริ๊ดกันเสียงหลงก็ได้ เป็นทัวร์รถจิ๊บพาเราชมเมือง 4 จุด โดยการขับรถของคุณพี่เค้านั้นไม่ธรรมดาจ่ะ ทุกคนจะได้ตื่นเต้นตลอดทางที่พี่เค้าขับแน่นอน ไต่ความสูง กระแทก เด้งดึ๋ง เลาะขอบทาง มันส์สุด ๆ


ตุรกี ภาพในฝัน แต่วันนี้ได้มาถึงแล้ว เวลาความสุขมักจะผ่านไปรวดเร็ว ทุกเมืองมีสเน่ห์ที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ทุกเมือง ไม่ว่าจะฝั่งยุโรปหรือฝั่งเอเชชีย ทำให้เรารู้สึกแปลกตาและตื่นเต้นทุกที่ ได้เจอวิวสวย ๆ ทุกวัน บรรยากาศดี ๆ ทุกวัน ประเทศที่มีทั้งภูเขา ทะเล หิมะ ประเทศที่มีประวัติศาสตร์เนิ่นนาน ได้เดินชมบ้านเมืองตึกรามบ้านช่อง และซากอารยธรรมโบราณต่าง ๆ ยิ่งเติมเต็มความรู้สึกใหม่ที่หาไม่ได้ถ้าเราไม่ออกไปพบเจอ


โดยเฉพาะคำพูดที่ได้ยิน ได้อ่านมาทุกคนต่างบอกว่าที่นี่คือเมืองเทพนิยาย พอได้มาสัมผัสจริงก็ยิ่งทวีคุณความสวยงามเข้าไปอีก ภาพบอลลูนนับพันลูก ภูมิประเทศที่แปลกตา อากาศที่แสนจะดี ภาพตรงหน้า มันเหมือนชีวิตเราคุ้มค่าที่จะตื่นขึ้นมาพบกับโลกอันสวยงามใบนี้


ทริปนี้ออมนัทยกให้เป็นประเทศที่โรแมนติกและคุ้มค่ามาก ๆ ที่จะได้มา ไม่ต้องขอวีซ่า ค่าใช้จ่ายไม่แพง เที่ยวได้ง่าย ผู้คนน่ารัก ทุกคำที่ออมนัทเขียนลงในรีวิวนี้ เราตั้งใจมากที่สุดที่อยากจะเล่าความ่รู้สึกให้กับทุกคนได้รับรู้ และสามารถเที่ยวตามได้


ขอบคุณที่อ่านรีวิวนี้จนจบนะคะ เจอกันใหม่รีวิวหน้า ติดตามออมนัทได้ทุกช่องทางด้วยน้า #รัก

ดู 1,315 ครั้ง

ความคิดเห็น


ABOUT US
profile.jpg

Om & Nut

Welcome to our blog guys! Let's explore luxury hotel destination around the world with us. We love traveling and sharing stories about couple goals together with beautiful scenic photography and video. 

EXPLORE THE WORLD
POPULAR
bottom of page